ผู้อ่านของโพลิติคอลพรีซันเนอร์อินไทยแลนด์ (พีพีที) อาจจะทราบแล้วก็ได้ว่า ในวันที่พันธมิตรออกมาประท้วง ราชินีทรงแสดงออกมาหลายครั้งว่าได้ให้การสนับสนุนพันธมิตร
ตัวอย่าง จากข่าวในเดอะเนชั่นหลังจากการประท้วงเมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๑ มีการใช้แก๊สน้ำตา แรงระเบิดจากแก๊สน้ำตาเป็นสาเหตุให้มีการบาดเจ็บและการตายเกิดขึ้น ข่าวรายงานว่า “สมเด็จพระราชินีทรงเป็นกังวลในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่ามีประชาชนได้รับบาดเจ็บหลายคน….” พระองค์ทรงประทานเงินค่ารักษาจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาทให้โรงพยาบาลวชิระ ซึ่งผู้ประท้วงพันธมิตรเข้ารับการรักษาที่นั่นจำนวนหลายคน” และ “สำนักพระราชวังได้แจ้งไปทางโรงพยาบาลว่า จะเป็นผู้ชำระค่ารักษาของฝ่ายพันธมิตรทั้งหมด” หลังจากนั้น ราชินีและเจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ ทรงมีพระราชเสาวนีย์แสดงให้เห็นว่า ทรงเกี่ยวข้องทางการเมืองอย่างแน่ชัดอย่างไม่น่าเชื่อ จากข่าวเอเชียไทม์ที่ว่า “ทรงเสด็จในงานพิธีพระราชทานเพลิงศพของผู้ประท้วงพันธมิตร ซึ่งเสียชีวิตในวันเกิดเหตุการณ์ชุลมุนเมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม สื่อไทยรายงานว่า ราชินีทรงมีรับสั่งกับบิดามารดาของผู้เสียชีวิตว่า ลูกสาวต้องเสียชีวิต เพื่อ “ปกป้อง” “สถาบันกษัตริย์”
ขณะนี้ประชาไท (๑๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๒: “ศิลปินเกิดใหม่”) ได้ลงข่าวเพิ่มเติมว่า ศิลปินพันธมิตรได้เข้าเฝ้าฯราชินี “เป็นศิลปินซึ่งสูญเสียมือขวาจากการปะทะ..เมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม..ทรงได้ประทานพระราชวโรกาสให้เข้าเฝ้าเพื่อถวายพระสาทิสลักษณ์ขององค์ราชินี และ ทรงตรัสชื่นชมว่า “เก่งมาก”
ผู้อ่านอาจจะคิดว่านี่เป็นเพียงการแสดงความมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างปกติ แต่พระองค์ทรงแสดงการสนับสนุนที่มีต่อเสื้อเหลืองอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน ทรงแสดงออกต่อหน้าพสกนิกรจำนวนมากในวันที่เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา ซึ่งเป็นวันหยุดของประเทศ สถานีโทรทัศน์ทุกช่องต่างถ่ายทอดสดทั้งพระสุรเสียงและตัวพระองค์เองเต็มไปหมด ในปีนี้ราชินีทรงมีพระราชดำรัสเกี่ยวกับพระพลานามัยของกษัตริย์ และการรักษาภาพพจน์ของราชวงศ์ว่า เป็นแต่ผู้ให้และมีความกรุณาปราณี ราชินีทรงขอให้มีการสมานฉันท์ในชาติ เป็นการร้องขอซึ่งทั้งตัวพระองค์ และกษัตริย์ได้ทรงกระทำอยู่เป็นนิจ
ความหมายทางการเมืองที่สำคัญในการให้ศิลปินเข้าเฝ้า ตามที่สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรได้นำมาอ้าง (ประชาไท ๑๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๒: “สนธิอัดเทพเทือกว่าเนรคุณและใกล้ชิดกับทักษิณ”)