วันอังคารที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

จะเกิดอะไรขี้น เมื่อสิ้นรัชกาล

ประเทศไทยกำลังวิตกเกี่ยวกับเรื่องการสืบทอดสันตติวงศ์ – แต่ไม่มีใครกล้าพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ รายงานโดย: แอนดรูว์ บันคอม และปีเตอร์ โพแพม

พระองค์ทรงมีพระราชจริยวัตรอันงดงามยากที่จะหาผู้ใดเสมอเหมือน เสด็จพระราชสมภพที่รัฐแมสสาชูเซสท์ เมื่อพระชนมายุ ๒๑ พรรษาทรงเกือบสิ้นพระชนม์เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถยนต์พระที่นั่งเฟี๊ยตโทโปลิโน ชนท้ายกับรถบรรทุกที่กำลังจอดอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ ทรงมีอัจฉริยภาพสูงส่งในด้านดนตรีแจ๊ส แซกโซโฟน เทียบเท่าอัจฉริยบุคคลของอเมริกาหรือของยุโรป แต่พระปรีชาสามารถทั้งหมดของพระองค์ กลับถูกบดบังด้วยการขี้นครองราชย์อย่างไม่คาดคิด

พระองค์คือกษัตริย์ภูมิพล อดุลยเดช ทรงเป็นปางอวตารของพระวิษณุและพระอวตารภาคอื่นๆ มีพระชนมายุ ๘๑ พรรษา ขณะนี้กำลังทรงเข้าประทับรักษาพระวรกายในโรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพ โดยมีพสกนิกรชาวไทยเฝ้าติดตามข่าวพระอาการ และถวายพระพรแด่พระองค์ พระองค์ทรงได้รับการถวายการรักษาเป็นเวลากว่าสองอาทิตย์แล้ว ประชาชนจำนวนนับพันได้เข้าแถวเพื่อรอร่วมลงชื่อถวายพระพรให้พระองค์ทรงหายประชวร ทั่วทั้งประเทศไทยได้พร้อมใจกันจัดงานเทิดพระเกียรติ และร่วมสวดมนต์ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์

แถลงการณ์ของสำนักพระราชวังล่าสุดเกี่ยวกับพระอาการของกษัตริย์สร้างความยินดีให้กับประชาชน แถลงการณ์มีใจความว่า พระองค์ทรงมีพระปรอท และพระปัปผาสะ (ปอด) อักเสบ แต่ทรงตอบสนองต่อพระโอสถดีขึ้น แต่การที่ทรงประทับรักษาพระองค์ในโรงพยาบาลยิ่งนานวันเข้า ยิ่งสร้างความวิตกกังวลไม่ใช่เพียงเรื่องพระสุขภาพของกษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดของโลก แต่เป็นเรื่องอนาคตของประเทศซึ่งพระองค์ได้ทรงปกครองมาตั้งแต่ปี ๒๔๘๙

กษัตริย์เป็นที่เคารพของหลายๆคนในประเทศไทย บางคนยังถือว่าพระองค์ทรงเปรียบประดุจดังสมมุติเทพ และผู้บรรยายข่าวบางคนกล่าวว่า พระองค์ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนทั้งประเทศ ซึ่งบางครั้งขาดความสามัคคีกันในสังคม

เดือนที่แล้วนี่เอง พระองค์ทรงแสดงความห่วงใยต่ออนาคตของประเทศไทย ทรงมีกระแสพระราชดำรัสตอนหนึ่งว่า “เรารู้สึกว่า บ้านเมืองเรากำลังล่มจม เพราะต่างคนต่างทำ” และ “ถ้าทุกคนที่มีความรู้ ความตั้งใจ มาร่วมมือกัน…จะสามารถสร้างให้บ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้าได้อย่างแท้จริง” พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ พระองค์ทรงอาศัยพระปรีชาญาณของพระองค์แก้ไขวิกฤติการณ์มาแล้วหลายครั้ง

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตำแหน่งและมูลค่าทรัพย์สินอันมหาศาลของพระองค์ ซึ่งประมาณว่าเป็นจำนวน ๓๕๐,๐๐๐ – ๗๐๐,๐๐๐ ล้านบาท แต่บทบาททางการเมืองของพระองค์ทรงถูกครอบงำโดยบุคคลต่างๆในกองทัพที่มีความมักใหญ่ใฝ่สูง

ปัญหาก็คือสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมารองค์รัชทายาท ซึ่งทรงแต่งงานถึงสามครั้ง จะสามารถเจริญรอยตามพระยุคลบาทอย่างเรียบง่ายของพระราชบิดาที่กำลังทรงพระประชวรได้หรือไม่ การประทับรักษาพระองค์เป็นเวลานานสร้างความรู้สึกหวั่นวิตกต่อความยุ่งยากที่คาดว่าจะตามมาหลังสิ้นรัชกาล

กฎหมายหมิ่นฯที่รุนแรงได้ถูกนำมาใช้เสมอเพื่อใช้ปิดปากนักวิจารณ์ทั้งหลาย – บางครั้งต้องโทษจำคุกนานถึง ๑๕ ปี – บุคคลเหล่านั้นต่างหวาดกลัวที่จะถกเถียงต่อเรื่องนี้ในที่สาธารณะ นักวิเคราะห์ที่ไม่ประสงค์จะออกนาม ประจำสำนักงานในกรุงเทพ กล่าวว่า “ห้ามพูดเรื่องปัญหาการสืบสันตติวงศ์ สื่อไทยจะไม่กล้าพูดถึง” “เรื่องการสืบสันตติวงศ์ยิ่งเพิ่มความรู้สึกว่า กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อมากขึ้น”

การเมืองของประเทศไทยกำลังประสบกับความยุ่งยาก เริ่มต้นเมื่อปี ๒๕๔๙ เรื่องส่วนใหญ่จะเน้นหนักไปที่บุคคลผู้หนึ่งซึ่งครั้งหนึ่งในระยะเวลาสั้นๆเคยเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้ มหาเศรษฐีด้านโทรคมนาคม และอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร

คุณทักษิณได้เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปี ๒๕๔๔ ห้าปีหลังจากนั้น ความหวาดกลัวว่าทักษิณจะมีอำนาจและมีความทะเยอทะยานมากขึ้น การประท้วงจากการรวมกลุ่มพันธมิตรหัวโบราณอย่างข้าราชการทหาร พวกคลั่งเจ้า และผู้หาประโยชน์จากการทำธุรกิจได้เริ่มขยายตัวออกไป นำไปสู่การทำรัฐประหาร ส่งผลให้ทักษิณต้องบินออกนอกประเทศและกำลังอยู่ในระหว่างการลี้ภัย เมื่อมีการเลือกตั้งอีกครั้งในเดือนธันวาคม ๒๕๕๐ พรรคที่สนับสนุนทักษิณได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้ง แต่ทั้งนายกที่ได้รับเลือกตั้งและนายกคนถัดไป ซึ่งนิยมทักษิณต่างถูกบังคับให้ต้องออกจากตำแหน่ง – นำไปสู่การปะทะกันระหว่างฝ่ายสนับสนุนทักษิณคนเสื้อแดง และฝ่ายคลั่งเจ้าหัวโบราณเสื้อเหลือง ซึ่งได้สร้างความเข้าใจผิดๆให้กับคนอื่น โดยการเรียกตัวเองว่า พันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย

นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สำเร็จการศึกษาจากอีตัน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับเลือกตั้งเมื่อเดือนธันวาคมที่แล้ว เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่สามในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ในขณะที่อภิสิทธิ์เป็นที่เคารพของบุคคลหลายฝ่าย ความพยายามที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจได้หยุดชะงักจากการประท้วงที่รุนแรง และความแตกแยกในพรรคร่วมรัฐบาลของเขา ผู้เชี่ยวชาญต่างกล่าวว่า ดูเหมือนว่าการแยกขั้วจะถึงขั้นวิกฤติจนยากที่จะหาทางออกได้ง่ายๆ และเป็นการทำลายความมั่นใจต่อนักลงทุนและต่อนักท่องเที่ยว

แม้ว่าคุณทักษิณจะลี้ภัยเพื่อเลี่ยงคำตัดสินของศาล แต่ทั้งตัวเขาและฝ่ายสนับสนุนเสื้อแดง ยังคงไม่ได้หายไปไหน

สองอาทิตย์ที่ผ่านมา ขณะที่กษัตริย์ทรงพระประชวรประทับรักษาพระวรกาย เสื้อแดงจำนวน ๒๐,๐๐๐ คนได้ชุมนุมประท้วงในใจกลางกรุงเทพในวันครบรอบสามปีของการทำรัฐประหาร ซึ่งบังคับขับไล่ทักษิณผู้ได้รับความนิยมให้ออกจากตำแหน่ง – ทักษิณได้ปราศรัยต่อฝูงชนที่โห่ร้องยินดีผ่านวิดีโอลิ้งค์

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พระสุขภาพที่อ่อนแอของกษัตริย์ ได้นำพาประเทศไทยเข้าสู่ความวุ่นวาย

เมื่อเดือนตุลาคม ๒๕๕๐ กษัตริย์ทรงพระประชวรด้วยผิวพระสมองขาดเลือดเพียงเล็กน้อย และเมื่อปีที่แล้ว กษัตริย์ทรงไม่สามารถให้พระราชดำรัสเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาตามธรรมเนียมที่เคยปฏิบัติทุกปี ต่อมาเจ้าฟ้าหญิงสิรินธรพระราชธิดาทรงตรัสว่า กษัตริย์ทรงอ่อนเพลีย มีอาการเจ็บพระศอ และช่องพระศออักเสบ พสกนิกรต่างเข้าแถวเพื่อร่วมลงชื่อถวายพระพรที่โรงพยาบาล และผู้บรรยายข่าวต่างสรรเสริญพระสถานะของกษัตริย์ต่อสังคมไทย

ถึงแม้จะมีการยืนยันปฏิเสธเท่าใดก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่เชื่อว่า กษัตริย์ทรงอยู่เหนือการเมือง หลายคนเชื่อว่าองคมนตรีได้เข้ามาเกี่ยวข้องในการทำรัฐประหารต่อต้านทักษิณในปี ๒๕๔๙ และเมื่อปีที่แล้วราชินีสิริกิติ์ทรงได้รับการวิจารณ์เมื่อพระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนินงานศพของผู้รณรงค์ต่อต้านทักษิณ ที่เสียชีวิตในระหว่างการปะทะกับตำรวจ ในสายตาของนักวิจารณ์เหล่านี้ การสิ้นรัชกาลจะเป็นการขจัดอุปสรรคต่อการกลับคืนสู่ประเทศไทยของทักษิณ

ใจ อึ๊งภากรณ์ นักวิชาการซึ่งต้องหลบหนีไปประเทศอังกฤษหลังจากต้องคดีหมิ่นฯ กล่าวว่า “ทุกคนรอให้ถึงวันนั้น เพราะพวกเขาคิดว่าประเทศไทยจะเข้าสู่ยุคใหม่” “เสื้อแดงต่างคิดว่า พระองค์ทรงเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในประเทศไทย และเมื่อถึงวันนั้น จะเกิดภาวะสุญญากาศ” แต่เขากล่าวต่อว่า “ผมคิดว่า กษัตริย์ทรงไม่ได้เข้มแข็งในทางการเมือง”

ไม่ว่าใครจะเชื่อว่ากษัตริย์ทรงดำรงไว้ซึ่งระบบรัฐธรรมนูญ หรือพระองค์ทรงขัดขวางการเปลี่ยนแปลงตามระบอบประชาธิปไตยก็ตาม แต่หลายคนคิดว่าเมื่อถึงวันนั้น เมื่อไรก็ตามที่มาถึง ย่อมจะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไมจึงได้เกิดความวิตกกังวลในราชอาณาจักรเช่นนี้

colskys@hotmail.com