วันพุธที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2556

3 วิธีอยู่รอดหลังเกษียณ

สังคมสมัยนี้ไม่เหมือนกับสังคมยุคก่อนตรงที่สมัยก่อนคนไทยมักจะอยู่กันเป็นครอบครัวขยาย ปู่ย่าตายายมักจะมีลูกหลานรายล้อมอยู่เต็มไปหมด ของกินของใช้ลูกๆ ก็ซื้อเข้าบ้านมาให้เป็นประจำ ทำให้ไม่ขัดสน บ้านก็มีบริเวณให้ทำสวนครัว พอจะสามารถปลูกพืชเพื่อนำมากินหรือขายไปให้กับเพื่อนบ้านได้ไม่ยากนัก แต่สังคมสมัยใหม่ได้มีการแยกกันอยู่มากขึ้น ครอบครัวมีขนาดเล็กลง โดยลูกๆ ต่างก็มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง นานๆ จึงมาเจอหน้าพ่อแม่ อีกทั้งในยุคนี้ หลายๆ ครอบครัวก็ไม่ค่อยนิยมมีลูก ด้วยเหตุผลว่ามีลูกก็เป็นภาระในการเลี้ยงดู ทั้งสามีและภรรยาต่างก็ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน ไม่มีเวลาดูแล ด้วยเหตุนี้แล้วคนรุ่นใหม่จึงจำเป็นต้องรีบวางแผนเกษียณเสียแต่เนิ่นๆ หากปล่อยทิ้งเอาไว้นานจะยิ่งทำให้โอกาสที่จะมีเงินเพียงพอใช้ในวัยหลังเกษียณก็จะลดน้อยถอยลงไปทุกปี แต่ถ้าเราพลาดไปแล้ว โดยเมื่อเกษียณแล้วมีเงินเก็บแค่บางส่วนเท่านั้น ไม่สามารถที่จะใช้ได้นานถึงอายุ 80 ปี เมื่อคิดแล้วเห็นว่าไม่พอแน่จะต้องทำอย่างไร บทความนี้มี 3 วิธี เป็นแนวทางดังนี้ วิธีแรก ใช้แรงกายเข้าแลก วิธีนี้มุ่งเน้นการใช้แรงกาย แรงสมองของตนเองทำงานหลังจากเกษียณเพื่อให้ได้มาซึ่งรายได้ และสามารถนำรายรับส่วนนี้มาเก็บออมเป็นเงินสำหรับการใช้หลังเกษียณอายุเพิ่มเติมได้ คนที่อายุ 60 ปีในสมัยนี้ หลายๆ คนยังคงมีกำลังวังชาสมบูรณ์เหมือนกับผู้ที่ยังอยู่ในวัยทำงาน เมื่อเรามีแรงพร้อม บวกด้วยประสบการณ์การทำงานที่มีความเชี่ยวชาญในงานที่ทำ การกลับไปเป็นตำแหน่งที่ปรึกษาให้กับองค์กรเดิม หรือบริษัทที่มีลักษณะงานใกล้เคียงกับเดิมก็คงไม่ใช่เรื่องยาก สำหรับผู้ที่ไม่คิดจะกลับไปทำงานในสายอาชีพเดิม ก็มีทางเลือกอื่นอีกมากมาย ทั้งการไปทำงานรับจ้างทั่วไป เช่น สอนหนังสือ รับจ้างเลี้ยงเด็ก ก็เป็นตัวเลือกที่ดี นอกจากนี้ หากมีความสามารถพิเศษ เช่น เย็บกระเป๋า หรือจัดดอกไม้ ก็สามารถนำความสามารถเหล่านี้ไปสร้างอาชีพเสริมได้ วิธีที่สอง นำบ้านเข้าแลก หลายๆ คนเมื่อเกษียณแล้ว แม้ว่าจะมีเงินก้อนไม่เพียงพอใช้หลังเกษียณอายุ แต่ถ้าหากไปนับรวมกับมูลค่าของบ้านที่อยู่อาศัยปัจจุบันแล้ว ก็อาจมีเงินใช้เพียงพอได้เช่นกัน โดยหลายคนที่ปกติทำงานในเมืองหลวง บ้านก็อยู่ในเขตที่ดินมีมูลค่าสูง เมื่อเปรียบเทียบกับชุมชนสงบๆ ในต่างจังหวัด โดยหลังจากเกษียณจากการทำงานแล้ว ก็อาจหาจังหวะขายบ้านที่อยู่ในเมืองออกไปให้ได้ราคาดีๆ แล้วนำเงินออกไปซื้อบ้านหลังเล็กๆ ใช้ชีวิตอย่างพอเพียงในต่างจังหวัดที่สงบสุข และมีค่าครองชีพที่ถูกกว่าในเมืองหลวง เพียงเท่านี้ เมื่อนับรวมเงินเก็บแต่เดิม บวกด้วยเงินส่วนต่างจากการขายบ้านในเมืองมาซื้อบ้านชนบทแล้ว ก็มีโอกาสที่จะใช้ได้อย่างเพียงพอในวัยหลังเกษียณ