ปลดอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยขวัญใจนักศึกษาออกจากรายการคุ้มครองมรดกแห่งชาติ โดยมีความคาดหมายว่าอาจจะมีการทุบทิ้ง ทั้งหมดคือการพยายามลบ ภาพการปฏิวัติ 24 มิถุนา 2475 ออกไปจากประวัติศาสตร์ของราชการและจากความทรงจำของประชาชน หลังจากเวลาผ่านไปเกือบห้าสิบปีและเหลือไม่กี่คนที่ยังจำเรื่องราวความจริงได้
พลเอกเปรมรับภาระในการจัดการกับคนสองคนที่ยังเหลืออยู่คือนาย ปรีดี พนมยงค์และพระพิมลธรรม เมื่อพลเอกเปรมขึ้นมีอำนาจ นายปรีดีอยู่ที่ปารีส อายุ 80 ปี และปรารถนาจะกลับบ้านหลังจากอยู่เมืองนอกมานานกว่า30ปี ครอบครัวและเพื่อนฝูงของนายปรีดีได้ถวายฎีกาต่อพระเจ้าอยู่หัวขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้นายปรีดีกลับไทย โดยพยายามกระตุ้นต่อมพระมหากรุณาธิคุณและการให้อภัยจากในหลวง แต่พระเจ้าอยู่หัวทรงเกรงกลัวว่านายปรีดียังคงเป็นภัยคุกคามทางการเมือง และยังคงเป็นวีรบุรุษในหมู่นักศึกษาตั้งแต่ทศวรรษ 2510 ซึ่งหลายคนตอนนี้เป็นครูอาจารย์และข้าราชการ
พลเอกเปรมออกอุบายรับมือปัญหาท้าทายนี้แทนในหลวงภูมิพล โดยรัฐบาลปล่อยข่าวอย่างไม่เป็นทางการว่านายปรีดีสามารถกลับมาได้ และวังไม่ได้ติดใจว่าเขาต้องรับผิดชอบในกรณีสวรรคตของในหลวงอานันท์ แต่ก็ไม่เคยมีการอนุญาตอย่างเป็นทางการราวกับว่ามันไปติดขัดอยู่ตรงระเบียบขั้นตอนที่ไหนสักแห่งในระบบราชการและไม่รู้ว่าใครเป็นคนรับผิดชอบ กระทั่งนายปรีดีถึงแก่กรรมที่ปารีสในวันที่ 2 พฤษภาคม 2526 และสิ่งที่เกิดตามมาภายหลังได้แสดงให้เห็นความพยาบาทผูกใจเจ็บของพระเจ้าอยู่หั
ว ศพของนายปรีดีถูกนำกลับไทย แต่รัฐบาลพลเอกเปรมปฏิเสธที่จะจัดพิธีศพให้อย่างเป็นทางการ และพระเจ้าอยู่หัวทรงปฏิเสธที่จะพระราชทานเพลิงศพ ซึ่งที่ผ่านมาพระองค์จะพระราชทานเพลิงศพให้ผู้นำไทยทุกคนยกเว้นจอมพลป.คนไม่เอาเจ้า
พระพิมลธรรมผู้ทรงพลังและหาญท้าทายพระราชวังปรากฏว่าเป็นปัญหายิ่งกว่า หลังจากถูกสฤษดิ์จับสึกและขังคุกด้วยข้อกล่าวหาเท็จในทศวรรษ 2500 พระพิมลธรรมได้สถานะบางส่วนกลับคืนมาในทศวรรษ 2510 ปลายปี 2523 เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุมรณะภาพ และพระลูกวัดก็สนับสนุนให้พระพิมลธรรมกลับมารับตำแหน่งเจ้าอาวาสตามเดิม แต่มหาเถรสมาคมที่ถูกควบคุมโดยพระราชวังและรัฐบาลเปรมกลับทำเพิกเฉย ไม่ตั้งใครเป็นเจ้าอาวาสวัดที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ จนเวลาผ่านไปถึงเก้าเดือน การวิพากษ์วิจารณ์จากคนทั่วไปและการขู่จะเคลื่อนไหวประท้วงของพระก็ทำให้มหาเถรสมาคมต้องยอม พระพิมลธรรมจึงได้กลับมาเป็นเจ้าอาวาส แต่เรื่องยังไม่จบ ชั้นยศสูงสุดของพระคือสมเด็จ ที่ให้ตามผลงานและอายุ และมีเพียงหกอัตราเท่านั้น ซึ่งทั้งหมดเป็นกรรมการมหาเถรสมาคม สังฆราชก็เลือกจากสมเด็จหกรูปนี้ ชั้นยศรองลงมาคือ รองสมเด็จ มีสิบสองอัตรา พระเจ้าอยู่หัวเป็นผู้พระราชทานสมณศักดิ์ทั้งหมดนี้จากการเสนอของมหาเถรสมาคมกับกรมการศาสนา และทรงพระราชทานสมณศักดิ์เหล่านี้ด้วยพระองค์เองในวันเฉลิมพระชนมพรรษา
พระพิมลธรรมได้ขี้นชั้นรองสมเด็จในทศวรรษ 2490 แต่ถูกจอมพลสฤษดิ์สั่งถอดยศ และเพิ่งได้คืนมาในปี 2518 ท่านจึงมีคุณสมบัติสมบูรณ์ที่จะเลือนชั้นเป็นสมเด็จ แต่วังปฏิเสธ เมื่อสมเด็จหนึ่งในหกรูปมรณะภาพในเดือนกรกฎาคม 2526 ก็เกิดกระแสเคลื่อนไหวเรียกร้องให้พระพิมลธรรมเป็นสมเด็จ โดยที่ท่านมีคุณสมบัติมากกว่าใครอื่น แท้จริงแล้วท่านได้เป็นรองสมเด็จก่อนพระอีกสองรูปที่ได้เป็นสังฆราชไปเรียบร้อยแล้ว สภาสงฆ์อีสานลงคะแนนสนับสนุนท่านอย่างเป็นเอกฉันท์
พลเอกเปรมกับวังรับมือด้วยการขุดข้อกล่าวหาที่ว่าพระพิมลธรรมเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ศาสน์ กษัตริย์ขื้นมาใหม่ เพราะวิตกว่าพระพิมลธรรมเป็นผู้ชิงตำแหน่งสังฆราช ซึ่งมีการเตรียมสมเด็จรุ่นน้องของพระพิมลธรรมจ่อคิวไว้แล้ว คือ พระญาณสังวร พระพี่เลี้ยงของในหลวงนั่นเอง
พระราชวังและพลเอกเปรมใช้วิธีหน่วงเหนี่ยวถ่วงเรื่องแบบเดียวกับกรณีการขอกลับบ้านของนายปรีดี เรื่องนี้ถูกจัดการในเครือข่ายลับ ๆ ที่เชื่อมโยงระหว่างวัง มหาเถรสมาคมกับรัฐบาล และมีกระบวนการสกัดกั้นโดยทำให้ดูเหมือนเป็นอุบัติเหตุ มหาเถรสมาคมทำเพิกเฉยในตอนแรก พอ 20 พฤศจิกายน ก่อนวันเฉลิมพระชนมพรรษาไม่กี่วัน เจ้าคณะภาคอีสานก็เสนอชื่อพระ
วันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2553
ต่อ
รัฐบาลเล่นงานกันเอง ด้วยการสนับสนุนอย่างเงียบๆจากวัง ในเดือนมกราคม 2526 พลเอกเปรมขยับที่จะทำให้โครงสร้างตามบทเฉพาะกาลกลายเป็นโครงสร้างถาวรด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อเผชิญการต่อต้านที่รุนแรงอย่างคาดไม่ถึงในสภาและจากนายพลหัวก้าวหน้าบางส่วน คนสนิทของพลเอกเปรมคือพลเอกพิจิตร กุลละวณิชย์ก็ออกมาขู่ว่าอาจจะมีการเอ็กเซอร์ไซส์หรือการตบเท้าสำแดงกำลังหากกองทัพไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ
พระเจ้าอยู่หัวทรงแสดงการสนับสนุนด้วยการโปรดเกล้าฯประกาศประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ วุฒิสภาที่เต็มไปด้วยทหารได้สร้างความอุ่นใจว่าการแก้ไขจะผ่านวาระที่หนึ่งและสองแน่ ซึ่งต้องการเพียงเสียงข้างมากของทั้งสองสภาเท่านั้น วาระที่สามกำหนดเป็นวันที่ 16 มีนาคม2526 จำต้องอาศัยเสียงสองในสาม ถึงตอนนั้นก็มีเสียงคัดค้านกันทั่วไปและการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ล้มไปอย่างเฉียดฉิว แต่พลเอกเปรมมีแผนสำรอง ซึ่งต้องอาศัยการหาจังหวะเวลาที่เหมาะพอดีที่จะทำให้การสนับสนุนของพระเจ้าอยู่หัวเป็นที่ประจักษ์ชัด ระยะเวลาตามบทเฉพาะกาลจะสิ้นสุดในวันที่ 21 เมษายน 2526 ด้วยการรับลูกจากพลเอกเปรม พระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯให้ยุบสภาในวันที่ 19 มีนาคม 2526 และกำหนดเลือกตั้งในวันที่ 18 เมษายน 2526 หมายความว่ารัฐบาลใหม่จะจัดตั้งขื้นมาภายใต้กติกาหรือตามบทเฉพาะกาลเดิม โดยมีวาระถึงสี่ปี อำนาจกองทัพก็จะยืดยาวต่อไปอีก
แผนนี้กลายเป็นประเด็นในระหว่างการรณรงค์หาเสียง พรรคประชาธิปัตย์กับกิจสังคมให้ความหมายแก่การเลือกตั้งครั้งนี้ว่าเป็นการเลือกระหว่างประชาธิปไตยและเผด็จการทหารซึ่งหมายถึงพลเอกเปรมที่มีพระเจ้าอยู่หัวทรงสนับสนุน เมื่อนับคะแนน ผู้ชนะคือพรรคชาติไทยที่ได้รับคะแนนเสียงจากต่างจังหวัดที่นำโดยพลตรีประมาณ อดิเรกสาร กับ พลตรีชาติชาย ชุณหะวัณ คู่เขยจอมขี้โกงและทะยานอยากที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับอันธพาลการเมืองปีกขวาพวกลูกเสือชาวบ้านและกระทิงแดงในปี 2519 เมื่อพลตรีประมาณท้าชิงตำแหน่งนายกฯ พลเอกเปรมที่ไม่ได้ลงเลือกตั้งก็ใช้ประโยชน์จากความกลัวพลตรีประมาณ บีบให้พรรคอื่นสนับสนุนตน และเขี่ยพรรคชาติไทยไปเป็นฝ่ายค้าน
จากนั้นพลเอกเปรมก็ทำการดัดหลังบรรดานักการเมืองที่สนับสนุนเขาคือแทนที่จะเลือกนักการเมืองเป็นรัฐมนตรี พลเอกเปรมกลับเลือกคนนอกมาเป็นรัฐมนตรีกว่าสิบคนซึ่งล้วนแต่จงรักภักดีต่อพลเอกเปรม แสดงให้เห็นว่าที่จริงแล้วพลเอกเปรมดูถูกพวกนักการเมือง และพลเอกเปรมก็ย้ำความชอบธรรมของพันธมิตรระหว่างวังกับกองทัพอีกครั้งว่า “กองทัพจะมีบทบาทสำคัญในการป้องกันประเทศ เอกราชของชาติและระบอบประชาธิปไตยอันมีพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นประมุข”
พระเจ้าอยู่หัวทรงแสดงการสนับสนุนพลเอกเปรมในทุกจังหวะสถานการณ์อย่างเปิดเผย ทรงมีพระบรมราโชวาทในคืนก่อนวันเฉลิมพระชนมพรรษาในเดือนธันวาคม 2526 ด้วยการเทศนายาวเหยียด 45 นาทีที่เต็มไปด้วยการทรงดูถูกเหยียดหยามนักการเมืองจากการเลือกตั้งและข้าราชการ แต่ไม่มีสักคำที่จะตำหนิพลเอกเปรมและผู้นำกองทัพ ทรงโทษข้าราชการและนักการเมืองเรื่องความไม่เอาไหนในการจัดการปัญหาน้ำทวมกรุงเทพฯชั้นในเป็นเวลาหลายสัปดาห์เมื่อสองเดือนก่อนหน้านั้น เปรียบเหมือนกับพวกเด็กฝึกงาน ทรงตรัสว่าแทนที่จะระบายน้ำออกสู่ทะเล เจ้าหน้าที่กลับขยับให้ไปท่วมพื้นที่อื่นต่อๆกันไปอย่างโง่ๆ ก่อปัญหาใหม่ๆ ขื้นมาอีกไม่จบสิ้น ทรงย้ำชัดว่าคนพวกนี้ไร้ความสามารถ ไม่เหมือนกองทัพ
พลเอกเปรมตอบสนองพระมหากรุณาธิคุณด้วยการปกป้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์โดยการทุ่มเทความพยายามในการปกปิดอำพรางเรื่องเลวร้ายของพระราชวงศ์ ซึ่งยากขึ้นทุกทีที่จะปิดบังต่อสาธารณชน ทันทีที่พลเอกเปรมเป็นนายกฯ ในปี 2523 ก็รีบฟื้นโครงการก่อสร้างอนุสาวรีย์ รัชกาลที่ 7 ที่รัฐสภา ซึ่งริเริ่มโดยรัฐบาลธานินทร์ในปี 2519 เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของประชาธิปไตยของวัง โดยได้มีพิธีแห่แหนอย่างเอิกเกริกในในการเปิดอนุสาวรีย์นี้ในวันรัฐธรรมนูญปี 2523 กระทั่งมีการเสนอให้เปลี่ยนวันรัฐธรรมนูญเป็นวันประชาธิปกเพื่อตอกย้ำว่าพระมหากษัตริย์คือผู้พระราชทานอำนาจอธิปไตย แต่เปลี่ยนไม่สำเร็จ ในช่วงเวลานั้น รัฐบาลก็
พระเจ้าอยู่หัวทรงแสดงการสนับสนุนด้วยการโปรดเกล้าฯประกาศประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ วุฒิสภาที่เต็มไปด้วยทหารได้สร้างความอุ่นใจว่าการแก้ไขจะผ่านวาระที่หนึ่งและสองแน่ ซึ่งต้องการเพียงเสียงข้างมากของทั้งสองสภาเท่านั้น วาระที่สามกำหนดเป็นวันที่ 16 มีนาคม2526 จำต้องอาศัยเสียงสองในสาม ถึงตอนนั้นก็มีเสียงคัดค้านกันทั่วไปและการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ล้มไปอย่างเฉียดฉิว แต่พลเอกเปรมมีแผนสำรอง ซึ่งต้องอาศัยการหาจังหวะเวลาที่เหมาะพอดีที่จะทำให้การสนับสนุนของพระเจ้าอยู่หัวเป็นที่ประจักษ์ชัด ระยะเวลาตามบทเฉพาะกาลจะสิ้นสุดในวันที่ 21 เมษายน 2526 ด้วยการรับลูกจากพลเอกเปรม พระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯให้ยุบสภาในวันที่ 19 มีนาคม 2526 และกำหนดเลือกตั้งในวันที่ 18 เมษายน 2526 หมายความว่ารัฐบาลใหม่จะจัดตั้งขื้นมาภายใต้กติกาหรือตามบทเฉพาะกาลเดิม โดยมีวาระถึงสี่ปี อำนาจกองทัพก็จะยืดยาวต่อไปอีก
แผนนี้กลายเป็นประเด็นในระหว่างการรณรงค์หาเสียง พรรคประชาธิปัตย์กับกิจสังคมให้ความหมายแก่การเลือกตั้งครั้งนี้ว่าเป็นการเลือกระหว่างประชาธิปไตยและเผด็จการทหารซึ่งหมายถึงพลเอกเปรมที่มีพระเจ้าอยู่หัวทรงสนับสนุน เมื่อนับคะแนน ผู้ชนะคือพรรคชาติไทยที่ได้รับคะแนนเสียงจากต่างจังหวัดที่นำโดยพลตรีประมาณ อดิเรกสาร กับ พลตรีชาติชาย ชุณหะวัณ คู่เขยจอมขี้โกงและทะยานอยากที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับอันธพาลการเมืองปีกขวาพวกลูกเสือชาวบ้านและกระทิงแดงในปี 2519 เมื่อพลตรีประมาณท้าชิงตำแหน่งนายกฯ พลเอกเปรมที่ไม่ได้ลงเลือกตั้งก็ใช้ประโยชน์จากความกลัวพลตรีประมาณ บีบให้พรรคอื่นสนับสนุนตน และเขี่ยพรรคชาติไทยไปเป็นฝ่ายค้าน
จากนั้นพลเอกเปรมก็ทำการดัดหลังบรรดานักการเมืองที่สนับสนุนเขาคือแทนที่จะเลือกนักการเมืองเป็นรัฐมนตรี พลเอกเปรมกลับเลือกคนนอกมาเป็นรัฐมนตรีกว่าสิบคนซึ่งล้วนแต่จงรักภักดีต่อพลเอกเปรม แสดงให้เห็นว่าที่จริงแล้วพลเอกเปรมดูถูกพวกนักการเมือง และพลเอกเปรมก็ย้ำความชอบธรรมของพันธมิตรระหว่างวังกับกองทัพอีกครั้งว่า “กองทัพจะมีบทบาทสำคัญในการป้องกันประเทศ เอกราชของชาติและระบอบประชาธิปไตยอันมีพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นประมุข”
พระเจ้าอยู่หัวทรงแสดงการสนับสนุนพลเอกเปรมในทุกจังหวะสถานการณ์อย่างเปิดเผย ทรงมีพระบรมราโชวาทในคืนก่อนวันเฉลิมพระชนมพรรษาในเดือนธันวาคม 2526 ด้วยการเทศนายาวเหยียด 45 นาทีที่เต็มไปด้วยการทรงดูถูกเหยียดหยามนักการเมืองจากการเลือกตั้งและข้าราชการ แต่ไม่มีสักคำที่จะตำหนิพลเอกเปรมและผู้นำกองทัพ ทรงโทษข้าราชการและนักการเมืองเรื่องความไม่เอาไหนในการจัดการปัญหาน้ำทวมกรุงเทพฯชั้นในเป็นเวลาหลายสัปดาห์เมื่อสองเดือนก่อนหน้านั้น เปรียบเหมือนกับพวกเด็กฝึกงาน ทรงตรัสว่าแทนที่จะระบายน้ำออกสู่ทะเล เจ้าหน้าที่กลับขยับให้ไปท่วมพื้นที่อื่นต่อๆกันไปอย่างโง่ๆ ก่อปัญหาใหม่ๆ ขื้นมาอีกไม่จบสิ้น ทรงย้ำชัดว่าคนพวกนี้ไร้ความสามารถ ไม่เหมือนกองทัพ
พลเอกเปรมตอบสนองพระมหากรุณาธิคุณด้วยการปกป้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์โดยการทุ่มเทความพยายามในการปกปิดอำพรางเรื่องเลวร้ายของพระราชวงศ์ ซึ่งยากขึ้นทุกทีที่จะปิดบังต่อสาธารณชน ทันทีที่พลเอกเปรมเป็นนายกฯ ในปี 2523 ก็รีบฟื้นโครงการก่อสร้างอนุสาวรีย์ รัชกาลที่ 7 ที่รัฐสภา ซึ่งริเริ่มโดยรัฐบาลธานินทร์ในปี 2519 เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของประชาธิปไตยของวัง โดยได้มีพิธีแห่แหนอย่างเอิกเกริกในในการเปิดอนุสาวรีย์นี้ในวันรัฐธรรมนูญปี 2523 กระทั่งมีการเสนอให้เปลี่ยนวันรัฐธรรมนูญเป็นวันประชาธิปกเพื่อตอกย้ำว่าพระมหากษัตริย์คือผู้พระราชทานอำนาจอธิปไตย แต่เปลี่ยนไม่สำเร็จ ในช่วงเวลานั้น รัฐบาลก็
ต่อ
มาจากกองทัพนั่นเอง
สิ่งที่เกิดขื้นอาจทำให้พระเจ้าอยู่หัวทรงได้เห็นว่าการเล่นการเมืองและการแบ่งพรรคแบ่งพวกในกองทัพนั้นเป็นภัยต่อราชบัลลังก์ แถมวังยังอุ้มชูอุปถัมภ์ทหารบางคนเป็นการส่วนพระองค์ แต่ในหลวงก็ไม่มีวี่แววว่าจะทรงคิดทบทวน พลเอกเปรมเลิกล้มการต่ออายุตำแหน่งผบ.ทบ.ในปีต่อมา แต่มันไม่สำคัญแล้ว เพราะการที่พระเจ้าอยู่หัวทรงสนับสนุนพลเอกเปรมในช่วงรัฐประหารและการกวาดล้างกลุ่มยังเติร์กนั้นเป็นการค้ำประกันอำนาจให้พลเอกเปรมอีกหนึ่งปี พลเอกอาทิตย์ได้รับการปูนบำเหน็จเป็นแม่ทัพภาคที่หนึ่งแล้วก็เป็นผู้ช่วยผบ.ทบ. และก้าวขึ้นเป็นผบ.ทบ.ในปี 2525 ทำให้เขาเป็นทายาททางการเมืองของพลเอกเปรมที่ไม่ต้องมีการประกาศ
ในช่วงเจ็ดปีต่อมาที่ปั่นป่วน พระเจ้าอยู่หัวทรงกางร่มฉัตรให้พลเอกเปรมได้มีที่กำบังหลบภัยจากทั้งกองทัพและสภา ทรงโปรดเกล้าฯให้พลเอกเปรมเข้าเฝ้าเป็นประจำ และพระองค์ก็ทรงกระแอมเตือนคนทั่วไปให้ทราบถึงการสนับสนุนของพระองค์อยู่เรื่อยๆ มีครั้งหนึ่งที่ชัดเจนด้วยการใช้สัญลักษณ์แบบพุทธ ในเดือนกรกฎาคม 2525 ในหลวงทรงประชวรหนักจากการติดเชึ้อในปอด Mycoplasma และโรคปอดอักเสบ(นิวโมเนีย) วังกลัวว่าจะสวรรคต ภายหลังที่ทรงตรัสว่าได้เสด็จ “เฉียดกรายเข้าไปในแดนสนธยา” หลังจากทรงบรรทมประชวรนานสามสัปดาห์ ก็ลุกขื้นมาเสด็จพระดำเนินไปรอบสวนในวังสวนจิตร ทรงเสด็จพระดำเนินเพียงลำพังโดยมีฟ้าชายวชิราลงกรณ์ ฟ้าหญิงสิรินธรและพลเอกเปรมเดิมตามหลังเป็นแนว การจัดแถวอย่างนี้ทำให้พลเอกเปรมเป็นเหมือนเชื้อพระวงศ์รุ่นใหญ่พระองค์หนึ่ง พระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งให้หญิงในวังนางหนึ่งเก็บดอกบัวจากสระมาดอกหนึ่ง เธอยื่นดอกบัวนั้นแก่พลเอกเปรมที่คุกเข่าและถวายดอกบัวแด่พระเจ้าอยู่หัว ทรงรับดอกบัวจากพลเอกเปรมและทรงจ้องมอง จากนั้นก็พระราชทานคืนพลเอกเปรม
ภาพดังกล่าวนี้ได้เผยแพร่ตามโทรทัศน์และหน้าหนังสือพิมพ์ ซึ่งมีความชัดเจนว่าดอกบัวหมายถึงความบริสุทธิ์และการรู้แจ้ง ปกติจะถวายแก่พระสงฆ์เพื่อแสดงการยอมรับความหลุดพ้นจากกิเลสการที่หญิงในวังยื่นดอกบัวให้พลเอกเปรมเป็นการบ่งบอกว่าพลเอกเปรมคือผู้ที่มีคุณสมบัติที่สุดที่จะถวายดอกบัวแด่พระเจ้าอยู่หัวผู้เป็นธรรมราชา ทรงถือดอกบัว ถ่ายทอดพลังพระบารมีไปยังดอกบัว จากนั้นก็พระราชทานให้แก่พลเอกเปรม เป็นการยืนยันถึงระดับคุณธรรมอันสูงส่งของพลเอกเปรม
พระเจ้าอยู่หัวทรงฟื้นจากประชวร พลเอกเปรมมีอำนาจที่มั่นคงขึ้นจากท่าทีรับรองของในหลวงทั้งๆที่มีปัญหาเศรษฐกิจรุมเร้าไปทั่วประเทศ ผู้นำทหารก็เพลิดเพลินไปกับการได้เข้าเฝ้าเข้าวังเนื่องจากพระราชินีสิริกิติ์ทรงโปรดการแวดล้อมด้วยบรรดานายพลตำรวจและนายทหาร ภรรยาของพวกเขาก็กลายมาเป็นหญิงรับใช้หรือนางสนองพระโอษฐ์ของพระองค์ แขกรับเชิญขาประจำสำหรับงานเลี้ยงของพระราชวังคือนายทหาร และบรรดานายทหารก็จะผลัดกันเต้นรำกับพระราชินีสิริกิติ์และร้องเพลงโดยในหลวงภูมิพลทรงเป่าแซ็กโซโฟน มีน้อยครั้งที่นักการเมืองกับนักธุรกิจจะได้รับเชิญ
รัฐบาลพลเอกเปรมก็ยังคงกล่าวหาผู้วิจารณ์ตนว่าเป็นศัตรูของประเทศและเป็นคอมมิวนิสต์ ปลายปี 2525 นักศึกษาทำการประท้วงย่อยๆเกี่ยวกับปัญหาทางเศรษฐกิจ ทั้งกระทิงแดงและลูกเสือชาวบ้านถูกระดมมาปราบพวกประท้วง ลูกเสือชาวบ้านมีส่วนพัวพันในการฆาตกรรมนักศึกษาคนหนึ่งที่ประจวบคีรีขันธ์ที่นำการประท้วงการขื้นค่ารถเมล์
รัฐบาลเปรมพยายามหาทางสถาปนากองทัพให้เป็นสถาบันทางการเมืองที่ถาวรภายใต้กษัตริย์รัฐธรรมนูญ 2521 มีบทเฉพาะกาลที่ทำให้วุฒิสภาเต็มไปด้วยทหารมีอำนาจแข็งแกร่งและอนุญาตให้ทหารประจำการควบตำแหน่งทางการเมืองได้ บทเฉพาะกาลนี้จะสิ้นสุดในเดือนเมษายน 2526 จากนั้นอำนาจของวุฒิสภาจะลดลง และข้าราชการกับทหารจะถูกห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในเวลาเดียวกัน พรรคการเมืองต่างๆจะถูกบีบให้ต้องรวมตัวกัน เป้าหมายคือเพื่อสิ้นสุดการมีรัฐบาลผสมสี่ห้าพรรคที่แตกแยกมีปัญหากันตลอดเวลาและทำงานอะไรไม่ค่อยได้ การแตกแยกของพรรคร่วมรัฐบาลเป็นประโยชน์ต่อพลเอกเปรม ที่คอยยุให้พรรคร่วม
สิ่งที่เกิดขื้นอาจทำให้พระเจ้าอยู่หัวทรงได้เห็นว่าการเล่นการเมืองและการแบ่งพรรคแบ่งพวกในกองทัพนั้นเป็นภัยต่อราชบัลลังก์ แถมวังยังอุ้มชูอุปถัมภ์ทหารบางคนเป็นการส่วนพระองค์ แต่ในหลวงก็ไม่มีวี่แววว่าจะทรงคิดทบทวน พลเอกเปรมเลิกล้มการต่ออายุตำแหน่งผบ.ทบ.ในปีต่อมา แต่มันไม่สำคัญแล้ว เพราะการที่พระเจ้าอยู่หัวทรงสนับสนุนพลเอกเปรมในช่วงรัฐประหารและการกวาดล้างกลุ่มยังเติร์กนั้นเป็นการค้ำประกันอำนาจให้พลเอกเปรมอีกหนึ่งปี พลเอกอาทิตย์ได้รับการปูนบำเหน็จเป็นแม่ทัพภาคที่หนึ่งแล้วก็เป็นผู้ช่วยผบ.ทบ. และก้าวขึ้นเป็นผบ.ทบ.ในปี 2525 ทำให้เขาเป็นทายาททางการเมืองของพลเอกเปรมที่ไม่ต้องมีการประกาศ
ในช่วงเจ็ดปีต่อมาที่ปั่นป่วน พระเจ้าอยู่หัวทรงกางร่มฉัตรให้พลเอกเปรมได้มีที่กำบังหลบภัยจากทั้งกองทัพและสภา ทรงโปรดเกล้าฯให้พลเอกเปรมเข้าเฝ้าเป็นประจำ และพระองค์ก็ทรงกระแอมเตือนคนทั่วไปให้ทราบถึงการสนับสนุนของพระองค์อยู่เรื่อยๆ มีครั้งหนึ่งที่ชัดเจนด้วยการใช้สัญลักษณ์แบบพุทธ ในเดือนกรกฎาคม 2525 ในหลวงทรงประชวรหนักจากการติดเชึ้อในปอด Mycoplasma และโรคปอดอักเสบ(นิวโมเนีย) วังกลัวว่าจะสวรรคต ภายหลังที่ทรงตรัสว่าได้เสด็จ “เฉียดกรายเข้าไปในแดนสนธยา” หลังจากทรงบรรทมประชวรนานสามสัปดาห์ ก็ลุกขื้นมาเสด็จพระดำเนินไปรอบสวนในวังสวนจิตร ทรงเสด็จพระดำเนินเพียงลำพังโดยมีฟ้าชายวชิราลงกรณ์ ฟ้าหญิงสิรินธรและพลเอกเปรมเดิมตามหลังเป็นแนว การจัดแถวอย่างนี้ทำให้พลเอกเปรมเป็นเหมือนเชื้อพระวงศ์รุ่นใหญ่พระองค์หนึ่ง พระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งให้หญิงในวังนางหนึ่งเก็บดอกบัวจากสระมาดอกหนึ่ง เธอยื่นดอกบัวนั้นแก่พลเอกเปรมที่คุกเข่าและถวายดอกบัวแด่พระเจ้าอยู่หัว ทรงรับดอกบัวจากพลเอกเปรมและทรงจ้องมอง จากนั้นก็พระราชทานคืนพลเอกเปรม
ภาพดังกล่าวนี้ได้เผยแพร่ตามโทรทัศน์และหน้าหนังสือพิมพ์ ซึ่งมีความชัดเจนว่าดอกบัวหมายถึงความบริสุทธิ์และการรู้แจ้ง ปกติจะถวายแก่พระสงฆ์เพื่อแสดงการยอมรับความหลุดพ้นจากกิเลสการที่หญิงในวังยื่นดอกบัวให้พลเอกเปรมเป็นการบ่งบอกว่าพลเอกเปรมคือผู้ที่มีคุณสมบัติที่สุดที่จะถวายดอกบัวแด่พระเจ้าอยู่หัวผู้เป็นธรรมราชา ทรงถือดอกบัว ถ่ายทอดพลังพระบารมีไปยังดอกบัว จากนั้นก็พระราชทานให้แก่พลเอกเปรม เป็นการยืนยันถึงระดับคุณธรรมอันสูงส่งของพลเอกเปรม
พระเจ้าอยู่หัวทรงฟื้นจากประชวร พลเอกเปรมมีอำนาจที่มั่นคงขึ้นจากท่าทีรับรองของในหลวงทั้งๆที่มีปัญหาเศรษฐกิจรุมเร้าไปทั่วประเทศ ผู้นำทหารก็เพลิดเพลินไปกับการได้เข้าเฝ้าเข้าวังเนื่องจากพระราชินีสิริกิติ์ทรงโปรดการแวดล้อมด้วยบรรดานายพลตำรวจและนายทหาร ภรรยาของพวกเขาก็กลายมาเป็นหญิงรับใช้หรือนางสนองพระโอษฐ์ของพระองค์ แขกรับเชิญขาประจำสำหรับงานเลี้ยงของพระราชวังคือนายทหาร และบรรดานายทหารก็จะผลัดกันเต้นรำกับพระราชินีสิริกิติ์และร้องเพลงโดยในหลวงภูมิพลทรงเป่าแซ็กโซโฟน มีน้อยครั้งที่นักการเมืองกับนักธุรกิจจะได้รับเชิญ
รัฐบาลพลเอกเปรมก็ยังคงกล่าวหาผู้วิจารณ์ตนว่าเป็นศัตรูของประเทศและเป็นคอมมิวนิสต์ ปลายปี 2525 นักศึกษาทำการประท้วงย่อยๆเกี่ยวกับปัญหาทางเศรษฐกิจ ทั้งกระทิงแดงและลูกเสือชาวบ้านถูกระดมมาปราบพวกประท้วง ลูกเสือชาวบ้านมีส่วนพัวพันในการฆาตกรรมนักศึกษาคนหนึ่งที่ประจวบคีรีขันธ์ที่นำการประท้วงการขื้นค่ารถเมล์
รัฐบาลเปรมพยายามหาทางสถาปนากองทัพให้เป็นสถาบันทางการเมืองที่ถาวรภายใต้กษัตริย์รัฐธรรมนูญ 2521 มีบทเฉพาะกาลที่ทำให้วุฒิสภาเต็มไปด้วยทหารมีอำนาจแข็งแกร่งและอนุญาตให้ทหารประจำการควบตำแหน่งทางการเมืองได้ บทเฉพาะกาลนี้จะสิ้นสุดในเดือนเมษายน 2526 จากนั้นอำนาจของวุฒิสภาจะลดลง และข้าราชการกับทหารจะถูกห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในเวลาเดียวกัน พรรคการเมืองต่างๆจะถูกบีบให้ต้องรวมตัวกัน เป้าหมายคือเพื่อสิ้นสุดการมีรัฐบาลผสมสี่ห้าพรรคที่แตกแยกมีปัญหากันตลอดเวลาและทำงานอะไรไม่ค่อยได้ การแตกแยกของพรรคร่วมรัฐบาลเป็นประโยชน์ต่อพลเอกเปรม ที่คอยยุให้พรรคร่วม
ต่อ
เปรมของพวกเขาในปี 2523 เกิดจากภาพทหารอาชีพของพลเอกเปรมและความสัมพันธ์ส่วนตัวกับผู้นำยังเติร์กคือพันเอกมนูญ รูปขจรและพลตรีจำลอง ศรีเมือง หลังจากพลเอกเปรมเป็นนายกฯในปี 2523 พลตรีจำลองได้เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แต่ยังเติร์กไม่เป็นที่โปรดปรานของวังมากนัก รายละเอียดเกี่ยวกับกบฏเมษาฮาวายถูกกลบเกลื่อนลบเลือนไปโดยวังและผู้มีส่วนร่วมหลักๆ เพื่อปกป้องชื่อเสียงของพลเอกเปรมและพระราชินีสิริกิติ์ ในตอนแรกมันไม่ใช่การรัฐประหารต่อต้านตัวเปรม แต่ต่อต้านการที่พลเอกเปรมต้องพึ่งพานายทหารขี้โกงบางคนเพื่อที่จะเอาตัวให้รอดจากการตีรวนในสภา ยังเติร์กกับนายทหารพันธมิตรที่ไม่สบอารมณ์กับการเลื่อนตำแหน่งนายทหารการเมืองขี้โกง รวมถึงบรรดาคนโปรดของวังอย่างพลตรีอาทิตย์ กำลังเอก พันเอกมนูญกับ พลเอกสัณห์ จิตรปฏิมาได้ติดต่อพลเอกเปรมในวันที่ 31 มีนาคม 2524 ขอให้ยุบสภากับยกเลิกรัฐธรรมนูญและกุมอำนาจเบ็ดเสร็จแบบจอมพลสฤษดิ์ในปี 2501 ดูเหมือนว่าทีแรกพลเอกเปรมตกลง พอคณะรัฐประหารยกกำลังออกมาคุมกรุงเทพฯ เท่านั้น พระราชินีสิริกิติ์ก็ทรงเข้ามาแทรกแซงและเรียกพลเอกเปรมเข้าไปพบที่สวนจิตร ข้อมูลระบุว่าพระราชินีต้องการปกป้องพลตรีอาทิตย์ ทรงพูดคุยทางโทรศัพท์อยู่นานกับหัวหน้าคณะรัฐประหาร(พลเอกสัณห์ จิตรปฏิมา) เรียกให้พวกเขามาพูดคุยกันที่วัง เมื่อพวกเขาปฏิเสธ พระองค์ก็คงจะชักจูงพลเอกเปรมกับพระเจ้าอยู่หัวให้ถอนการสนับสนุนคณะรัฐประหาร คณะรัฐประหารเดินหน้าต่อและประกาศยึดอำนาจในเช้าวันที่ 1 เมษายน ขณะเดียวกัน
พลเอกเปรมก็จัดการอพยพโยกย้ายพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ทั้งหมดขื้นเฮลิค็อปเตอร์ไปไว้ยังกองทัพภาคที่สองในจังหวัดนครราชสีมา ที่มีพลตรีอาทิตย์เป็นรองแม่ทัพอยู่ บนชั้นสองของที่พักส่วนตัวของพลเอกเปรม พระราชินีสิริกิติ์ พลตรีอาทิตย์และพลเอกเปรมได้เปิดฉากสงครามโฆษณาชวนเชื่อ ประเด็นหลักคือฝ่ายไหนกันแน่ที่จงรักภักดีและวังทรงสนับสนุน ตอนบ่ายของวันที่ 1 เมษายน พลเอกเปรมแถลงออกอากาศว่าพระบรมวงศานุวงศ์อยู่กับเขา และคณะรัฐประหารมี “ประสงค์ร้ายต่อแผ่นดินและสถาบันพระมหากษัตริย์”พลเอกเปรมโจมตีคณะรัฐประหารว่าน่าละอายและหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่ปฏิเสธคำสั่งเรียกให้เข้าพบกษัตริย์ จากนั้นพระราชินีสิริกิติ์ (ไม่ใช่ในหลวงภูมิพล) ทรงเรียกร้องความสามัคคีและวิจารณ์คณะรัฐประหารว่าพยายามโค่นล้ม “รัฐบาลของพระเจ้าอยู่หัว” คำแถลงของพระราชินีถูกถ่ายทอดออกอากาศซ้ำไปซ้ำมาตลอดช่วงเวลา 36 ชั่วโมงต่อมา หลักฐานที่แสดงจุดยืนของวังคือ วันที่ 2 เมษายน อันเป็นวันพระราชสมภพของฟ้าหญิงสิรินธร หนังสือพิมพ์ทุกฉบับได้ตีพิมพ์พระบรมฉายาลักษณ์ของฟ้าหญิงบนหน้าหนึ่งโดยมีคำบรรยายว่าพระองค์กำลังประทับอยู่กับพลเอกเปรมที่กองทัพภาคที่สอง
ขณะที่พระเจ้าอยู่หัวยังมิได้ทรงตรัสอะไรออกมา คณะรัฐประหารก็โต้กลับด้วยการกล่าวหาพลเอกเปรมว่าได้ลักพาตัวพระราชวงศ์ และประกาศว่าพลเอกเปรมหลบกำบังตน “ภายใต้ร่มฉัตรของสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำให้พระมหากษัตริย์ถูกลากเข้ามาเกี่ยวพันกับการเมือง ประวัติศาสตร์ไทยต้องจารึกว่านายทหารไทยนายหนึ่งมีส่วนในการบ่อนทำลายสถาบันกษัตริย์” พวกเขายังพูดอีกว่า พวกเขาไม่ได้ปฏิเสธที่จะเข้าพบพระมหากษัตริย์ แต่ถูกพลเอกเปรมกีดกันไม่ให้เข้าเฝ้าต่างหาก “คณะปฏิวัติประสงค์จะส่งคณะผู้แทนเข้าพบพระเจ้าอยู่หัวและพระราชินี เราหวังว่าพลเอกเปรมจะไม่พยายามผูกขาดความจงรักภักดีไว้แต่เพียงผู้เดียว… เราต้องอธิบายความจริงแก่พระเจ้าอยู่หัวและแก่ประชาชน แต่พลเอกเปรมถือไพ่เหนือกว่าและประกาศว่า “กองทัพเกือบทั้งหมดอยู่ในมือของผม และพระเจ้าอยู่หัวก็อยู่กับเรา” อันที่จริงต้องอาศัยการเจรจาเกลี้ยกล่อมอย่างหนักเป็นเวลาถึงสองวันก่อนที่ผู้บัญชาการภูมิภาคต่างๆ ส่วนใหญ่จะเข้ามาอยู่ฝ่ายพลเอกเปรม ในที่สุดพันเอกมนูญกับพรรคพวกต้องยอมแพ้ต่อพลตรีอาทิตย์ในเช้าวันที่ 3 เมษายน พลเอกเปรมสามารถรักษาเก้าอี้ไว้ได้โดยไม่มีการลั่นกระสุนแม้แต่นัดเดียว
จุดยืนที่คลุมเครือของในหลวงภูมิพลในกรณีกบฏเมษาฮาวายทำให้ภาพลักษณ์ของพระองค์แทบไม่มีตำหนิ หลังจากนั้นพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงเกาะหลังพลเอกเปรมโดยทรงอ้างว่าว่าเป็นการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลอย่างสันติตามครรลองประชาธิปไตย และมีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับผู้ร่วมก่อการเกือบทั้งหมดอย่างรวดเร็ว ยังกับว่าเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดกันในหมู่ลูกๆ ของพระองค์เท่านั้น กระนั้นก็ตามเมื่อพระราชวงศ์ปรากฏพระองค์ในที่สาธารณะในช่วงหลายสัปดาห์ต่อมาก็ได้มีการคุ้มกันอย่างเข้มงวดแน่นหนาเป็นพิเศษ ในปีถัดมาทั้งพลเอกเปรมและพลตรีอาทิตย์ก็รอดตายจากการลอบสังหารไปได้อย่างหวุดหวิดหลายครั้ง คาดว่าคนลงมือ
ขณะที่พระเจ้าอยู่หัวยังมิได้ทรงตรัสอะไรออกมา คณะรัฐประหารก็โต้กลับด้วยการกล่าวหาพลเอกเปรมว่าได้ลักพาตัวพระราชวงศ์ และประกาศว่าพลเอกเปรมหลบกำบังตน “ภายใต้ร่มฉัตรของสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำให้พระมหากษัตริย์ถูกลากเข้ามาเกี่ยวพันกับการเมือง ประวัติศาสตร์ไทยต้องจารึกว่านายทหารไทยนายหนึ่งมีส่วนในการบ่อนทำลายสถาบันกษัตริย์” พวกเขายังพูดอีกว่า พวกเขาไม่ได้ปฏิเสธที่จะเข้าพบพระมหากษัตริย์ แต่ถูกพลเอกเปรมกีดกันไม่ให้เข้าเฝ้าต่างหาก “คณะปฏิวัติประสงค์จะส่งคณะผู้แทนเข้าพบพระเจ้าอยู่หัวและพระราชินี เราหวังว่าพลเอกเปรมจะไม่พยายามผูกขาดความจงรักภักดีไว้แต่เพียงผู้เดียว… เราต้องอธิบายความจริงแก่พระเจ้าอยู่หัวและแก่ประชาชน แต่พลเอกเปรมถือไพ่เหนือกว่าและประกาศว่า “กองทัพเกือบทั้งหมดอยู่ในมือของผม และพระเจ้าอยู่หัวก็อยู่กับเรา” อันที่จริงต้องอาศัยการเจรจาเกลี้ยกล่อมอย่างหนักเป็นเวลาถึงสองวันก่อนที่ผู้บัญชาการภูมิภาคต่างๆ ส่วนใหญ่จะเข้ามาอยู่ฝ่ายพลเอกเปรม ในที่สุดพันเอกมนูญกับพรรคพวกต้องยอมแพ้ต่อพลตรีอาทิตย์ในเช้าวันที่ 3 เมษายน พลเอกเปรมสามารถรักษาเก้าอี้ไว้ได้โดยไม่มีการลั่นกระสุนแม้แต่นัดเดียว
จุดยืนที่คลุมเครือของในหลวงภูมิพลในกรณีกบฏเมษาฮาวายทำให้ภาพลักษณ์ของพระองค์แทบไม่มีตำหนิ หลังจากนั้นพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงเกาะหลังพลเอกเปรมโดยทรงอ้างว่าว่าเป็นการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลอย่างสันติตามครรลองประชาธิปไตย และมีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับผู้ร่วมก่อการเกือบทั้งหมดอย่างรวดเร็ว ยังกับว่าเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดกันในหมู่ลูกๆ ของพระองค์เท่านั้น กระนั้นก็ตามเมื่อพระราชวงศ์ปรากฏพระองค์ในที่สาธารณะในช่วงหลายสัปดาห์ต่อมาก็ได้มีการคุ้มกันอย่างเข้มงวดแน่นหนาเป็นพิเศษ ในปีถัดมาทั้งพลเอกเปรมและพลตรีอาทิตย์ก็รอดตายจากการลอบสังหารไปได้อย่างหวุดหวิดหลายครั้ง คาดว่าคนลงมือ
ต่อ
เต็มที่
ในการบริหารประเทศ พลเอกเปรมมุ่งที่การต่อสู้กับคอมมิวนิสต์ คำสั่ง 66/2523 ทำให้พคท.พ่ายแพ้เร็วขึ้นและพลพรรค พคท.ก็หลั่งไหลออกจากป่านับพันคน ถึงปี 2524 พคท.ก็สิ้นพิษสง เหลีอเพียงแต่เป็นหย่อมๆในภาคใต้ตอนล่างและรอบๆเขาค้อในตอนล่างของภาคเหนือ เดือนมกราคม 2524 มีการประกาศว่าในหลวงมีโครงการส่วนพระองค์พัฒนาแม่น้ำที่เขาค้อ โดยมีพล.ท.พิจิตร กุลละวณิชย์ ลูกน้องของพลเอกเปรม จัดการเปิดฉากการรบยุทธการเขาค้อ ในเขตป่าเขารอยต่อของจังหวัดเพชรบูรณ์ พิษณุโลกและจังหวัดเลย มีฐานที่มั่นอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เรียกชื่อตามพื้นที่ว่า เขาค้อ ภูร่องกล้า ภูขัด โดยระดมสรรพกำลังทั้งภาคอากาศและภาคพื้นดินเป็นเวลาห้าเดือนเพื่อกวาดล้างพวกคอมมิวนิสต์ให้ออกจากบริเวณนั้น ทั้งๆที่พคท.กำลังจะพ่ายแพ้อยู่แล้ว มันจึงเป็นการลงทุนลงแรงที่มากเกินจำเป็น รัฐบาลสูญูเสียกำลังพลไป 1,300 นายและเทือกเขาก็โล้นเลี่ยนไปเป็นแถบๆ ในระหว่างนั้นที่กรุงเทพฯ พลเอกเปรมก็ต้องดิ้นรนเอาตัวรอดทางการเมืองเพราะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากเป็นรัฐบาลได้ไม่ถึงปี พรรคการเมืองร่วมรัฐบาลก็เริ่มแตกแถวโวยวายจากการที่ไม่ได้ประโยชน์ที่คุ้มกับการให้การสนับสนุนพลเอกเปรม และรัฐบาลยังมีเรื่องทุจริตอื้อฉาวอีกหลายกรณี ยิ่งกว่านั้นประชาชนก็มีปฏิกริยาด้านลบ โดยพลเอกเปรมจะขอต่ออายุราชการในฐานะผบ.ทบ.อีกปีหนึ่งเมื่อต้นปี 2524 รัฐมนตรีหลายคนลาออกเพื่อดูเชิง ขณะที่มรว.คึกฤทธิ์ที่ยังหวังจะนั่งเก้าอี้นายกอีกครั้งก็ถอนพรรคกิจสังคมออกจากการร่วมรัฐบาล
แต่พลเอกเปรมไม่ยอมถอย และได้จัดตั้งรัฐบาลใหม่โดยดึงพรรคการเมืองปีกขวา-และพวกทหารเข้ามาร่วม โดยเสนอชื่อพล.ต.สุตสายกับเพื่อนคนหนึ่งคือพล.อ. ประจวบ สุนทรางกูรเป็นรัฐมนตรี ซึ่งทำให้เกิดความวิตกไปทั่วว่าพวกขวาตกขอบแบบช่วงปี 2519-2520 จะหวนกลับมาอีก ในหลวงทรงเห็นชอบกับรายชื่อคณะรัฐมนตรีทันที ต่อมาไม่นาน ในคืนวันที่ 31 มีนาคม 2524 นายทหารกุมกำลังจำนวนมากของกองทัพพยายามก่อรัฐประหารที่เรียกกันว่า กบฏเมษาฮาวาย เป็นช่วงเวลาวิกฤติที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างในหลวงและพลเอกเปรมเปรมได้ลงหลักอย่างมั่นคง
กบฏยังเติร์ก หรือ กบฏเมษาฮาวาย เป็นการก่อกบฏเมื่อวันที่ 1 เมษายน - 3 เมษายน พ.ศ. 2524 เพื่อยึดอำนาจการปกครองของพลเอกเปรม ผู้ก่อการประกอบด้วยนายทหารซึ่งจบจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่น 7 หรือที่เรียกว่ารุ่น ยังเติร์ก ได้แก่ พันเอกมนูญ รูปขจร พันเอกประจักษ์ สว่างจิตร พันโทพัลลภ ปิ่นมณี โดยมี พลเอกสัณห์ จิตรปฏิมา รองผู้บัญชาการทหารบก เป็นหัวหน้าคณะได้เริ่มก่อการเมื่อเวลา 2.00 น. ของวันที่ 2 เมษายน โดยจับตัว พลเอกเสริม ณ นคร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พลโทหาญ ลีนานนท์ พลตรีชวลิต ยงใจยุทธ และพลตรีวิชาติ ลายถมยา ไปไว้ที่หอประชุมกองทัพบก และออกแถลงการณ์คณะปฏิวัติ
พลเอกเปรม ได้กราบบังคมทูลเชิญพระเจ้าอยู่หัว พระบรมราชินีนาถและพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินไปประทับที่กองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา ตั้งกองบัญชาการตอบโต้ และใช้อำนาจปลดผู้ก่อการออกจากตำแหน่งทางทหาร โดยได้กำลังสนับสนุนจาก พลตรี อาทิตย์ กำลังเอก รองแม่ทัพภาคที่ 2 การกบฏสิ้นสุดลงโดยไม่ได้มีการต่อสู้กัน โดยเกิดขึ้นและจบลงอย่างรวดเร็วเหมือนฝันหรือเป็นแค่การแสดง ประจวบกับเกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนเมษายนตรงกับวันเอพริลฟูลส์ ซึ่งตามธรรมเนียมฝรั่ง ถือเป็นวันที่ให้โกหกใส่กันได้ จึงได้อีกชื่อหนึ่งในเชิงเหยียดหยันจากสื่อมวลชนว่า กบฏเมษาฮาวาย ผู้ก่อการเดินทางออกนอกประเทศ พันเอกมนูญ รูปขจร ลี้ภัยที่ประเทศเยอรมนี ก่อนจะได้รับพระราชทานอภัยโทษได้รับนิรโทษกรรมทางการเมือง และได้รับการคืนยศทางทหารในเวลาต่อมาภายหลังเหตุการณ์ พลตรีอาทิตย์ กำลังเอก ซึ่งเป็นกำลังสำคัญคุมกำลังทหารต่อต้าน ได้รับความไว้ใจจากพลเอกเปรม ได้เลื่อนเป็นพลโท เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 คุมกองกำลังรักษาพระนคร และเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ใน 6 เดือนต่อมา
ยังเติร์กเป็นกลุ่มทหารที่จบโรงเรียนนายร้อยในปี 2503 หรือจปร.7 ที่มีความมั่นใจและเกาะกลุ่มกันอย่างเหนียวแน่นเพราะหลายคนมีประสบการณ์สู้รบในลาวและเวียตนาม ทำให้พวกเขาเป็นมืออาชีพมากกว่าทหารกลุ่มอื่นในกองทัพ โดยเฉพาะคู่ปรับคือรุ่นจปร.5 การสนับสนุนพลเอก
ในการบริหารประเทศ พลเอกเปรมมุ่งที่การต่อสู้กับคอมมิวนิสต์ คำสั่ง 66/2523 ทำให้พคท.พ่ายแพ้เร็วขึ้นและพลพรรค พคท.ก็หลั่งไหลออกจากป่านับพันคน ถึงปี 2524 พคท.ก็สิ้นพิษสง เหลีอเพียงแต่เป็นหย่อมๆในภาคใต้ตอนล่างและรอบๆเขาค้อในตอนล่างของภาคเหนือ เดือนมกราคม 2524 มีการประกาศว่าในหลวงมีโครงการส่วนพระองค์พัฒนาแม่น้ำที่เขาค้อ โดยมีพล.ท.พิจิตร กุลละวณิชย์ ลูกน้องของพลเอกเปรม จัดการเปิดฉากการรบยุทธการเขาค้อ ในเขตป่าเขารอยต่อของจังหวัดเพชรบูรณ์ พิษณุโลกและจังหวัดเลย มีฐานที่มั่นอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เรียกชื่อตามพื้นที่ว่า เขาค้อ ภูร่องกล้า ภูขัด โดยระดมสรรพกำลังทั้งภาคอากาศและภาคพื้นดินเป็นเวลาห้าเดือนเพื่อกวาดล้างพวกคอมมิวนิสต์ให้ออกจากบริเวณนั้น ทั้งๆที่พคท.กำลังจะพ่ายแพ้อยู่แล้ว มันจึงเป็นการลงทุนลงแรงที่มากเกินจำเป็น รัฐบาลสูญูเสียกำลังพลไป 1,300 นายและเทือกเขาก็โล้นเลี่ยนไปเป็นแถบๆ ในระหว่างนั้นที่กรุงเทพฯ พลเอกเปรมก็ต้องดิ้นรนเอาตัวรอดทางการเมืองเพราะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากเป็นรัฐบาลได้ไม่ถึงปี พรรคการเมืองร่วมรัฐบาลก็เริ่มแตกแถวโวยวายจากการที่ไม่ได้ประโยชน์ที่คุ้มกับการให้การสนับสนุนพลเอกเปรม และรัฐบาลยังมีเรื่องทุจริตอื้อฉาวอีกหลายกรณี ยิ่งกว่านั้นประชาชนก็มีปฏิกริยาด้านลบ โดยพลเอกเปรมจะขอต่ออายุราชการในฐานะผบ.ทบ.อีกปีหนึ่งเมื่อต้นปี 2524 รัฐมนตรีหลายคนลาออกเพื่อดูเชิง ขณะที่มรว.คึกฤทธิ์ที่ยังหวังจะนั่งเก้าอี้นายกอีกครั้งก็ถอนพรรคกิจสังคมออกจากการร่วมรัฐบาล
แต่พลเอกเปรมไม่ยอมถอย และได้จัดตั้งรัฐบาลใหม่โดยดึงพรรคการเมืองปีกขวา-และพวกทหารเข้ามาร่วม โดยเสนอชื่อพล.ต.สุตสายกับเพื่อนคนหนึ่งคือพล.อ. ประจวบ สุนทรางกูรเป็นรัฐมนตรี ซึ่งทำให้เกิดความวิตกไปทั่วว่าพวกขวาตกขอบแบบช่วงปี 2519-2520 จะหวนกลับมาอีก ในหลวงทรงเห็นชอบกับรายชื่อคณะรัฐมนตรีทันที ต่อมาไม่นาน ในคืนวันที่ 31 มีนาคม 2524 นายทหารกุมกำลังจำนวนมากของกองทัพพยายามก่อรัฐประหารที่เรียกกันว่า กบฏเมษาฮาวาย เป็นช่วงเวลาวิกฤติที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างในหลวงและพลเอกเปรมเปรมได้ลงหลักอย่างมั่นคง
กบฏยังเติร์ก หรือ กบฏเมษาฮาวาย เป็นการก่อกบฏเมื่อวันที่ 1 เมษายน - 3 เมษายน พ.ศ. 2524 เพื่อยึดอำนาจการปกครองของพลเอกเปรม ผู้ก่อการประกอบด้วยนายทหารซึ่งจบจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่น 7 หรือที่เรียกว่ารุ่น ยังเติร์ก ได้แก่ พันเอกมนูญ รูปขจร พันเอกประจักษ์ สว่างจิตร พันโทพัลลภ ปิ่นมณี โดยมี พลเอกสัณห์ จิตรปฏิมา รองผู้บัญชาการทหารบก เป็นหัวหน้าคณะได้เริ่มก่อการเมื่อเวลา 2.00 น. ของวันที่ 2 เมษายน โดยจับตัว พลเอกเสริม ณ นคร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พลโทหาญ ลีนานนท์ พลตรีชวลิต ยงใจยุทธ และพลตรีวิชาติ ลายถมยา ไปไว้ที่หอประชุมกองทัพบก และออกแถลงการณ์คณะปฏิวัติ
พลเอกเปรม ได้กราบบังคมทูลเชิญพระเจ้าอยู่หัว พระบรมราชินีนาถและพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินไปประทับที่กองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา ตั้งกองบัญชาการตอบโต้ และใช้อำนาจปลดผู้ก่อการออกจากตำแหน่งทางทหาร โดยได้กำลังสนับสนุนจาก พลตรี อาทิตย์ กำลังเอก รองแม่ทัพภาคที่ 2 การกบฏสิ้นสุดลงโดยไม่ได้มีการต่อสู้กัน โดยเกิดขึ้นและจบลงอย่างรวดเร็วเหมือนฝันหรือเป็นแค่การแสดง ประจวบกับเกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนเมษายนตรงกับวันเอพริลฟูลส์ ซึ่งตามธรรมเนียมฝรั่ง ถือเป็นวันที่ให้โกหกใส่กันได้ จึงได้อีกชื่อหนึ่งในเชิงเหยียดหยันจากสื่อมวลชนว่า กบฏเมษาฮาวาย ผู้ก่อการเดินทางออกนอกประเทศ พันเอกมนูญ รูปขจร ลี้ภัยที่ประเทศเยอรมนี ก่อนจะได้รับพระราชทานอภัยโทษได้รับนิรโทษกรรมทางการเมือง และได้รับการคืนยศทางทหารในเวลาต่อมาภายหลังเหตุการณ์ พลตรีอาทิตย์ กำลังเอก ซึ่งเป็นกำลังสำคัญคุมกำลังทหารต่อต้าน ได้รับความไว้ใจจากพลเอกเปรม ได้เลื่อนเป็นพลโท เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 คุมกองกำลังรักษาพระนคร และเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ใน 6 เดือนต่อมา
ยังเติร์กเป็นกลุ่มทหารที่จบโรงเรียนนายร้อยในปี 2503 หรือจปร.7 ที่มีความมั่นใจและเกาะกลุ่มกันอย่างเหนียวแน่นเพราะหลายคนมีประสบการณ์สู้รบในลาวและเวียตนาม ทำให้พวกเขาเป็นมืออาชีพมากกว่าทหารกลุ่มอื่นในกองทัพ โดยเฉพาะคู่ปรับคือรุ่นจปร.5 การสนับสนุนพลเอก
ต่อ
ชาวบ้าน ขณะเดียวกันก็มีการอภัยโทษแก่ผู้แปรพักตร์จากพคท. เป็นการสานต่อนโยบายของพลเอกเกรียงศักดิ์ ซึ่งที่จริงแล้ว พคท.ก็กำลังตกต่ำและแตกกันเป็นเสี่ยงๆ ดังนั้นพลเอกเปรมจึงดูประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว
แต่ที่สำคัญคือคำสั่งเหล่านี้ ทำให้กองทัพมีบทบาทครอบงำทั้งในการบริหารประเทศและสังคม เพราะคำสั่งดังกล่าวสร้างความชอบด้วยกฎหมายและความชอบธรรมแก่กองทัพในการก่อร่างระบบการเมือง “ที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง” กองทัพจะปฏิบัติการ “รุกทางการเมือง” เพื่อสร้างความยุติธรรมทางสังคมและขจัดรากเหง้าการทุจริตและการเอารัดเอาเปรียบมันเป็น “ภารกิจศักดิ์สิทธิ์” ของพวกเขาที่จะต้องเผชิญหน้ากับทั้งพลังราชการพลเรือนและทุนนิยมผูกขาดที่ทำให้ประชาชนไม่พอใจรัฐบาล นี่คือการรัฐประหารเงียบอย่างแท้จริงในปี 2523 คำสั่งทั้งสองฉบับประกาศการสนับสนุนรัฐธรรมนูญและระบอบประชาธิปไตยรัฐสภาโดยมีกษัตริย์เป็นประมุข แต่ภายในกรอบนี้ รัฐธรรมนูญกับรัฐสภาไม่ได้ถูกนำมาใช้ขณะที่ในหลวงกับพลเอกเปรมกุมอำนาจผ่านกองทัพ ขณะที่กองทัพได้อำนาจตามกฎหมายตามประกาศคำสั่งของสำนักนายกรัฐมนตรีสมัยพลเอกเปรมที่ทำให้กองทัพมีอำนาจเหนือทั้งรัฐสภาและรัฐธรรมนูญ จะเป็นรองก็แต่เพียงวังเท่านั้น
พลเอกเปรมไม่ได้มีแผนที่ชัดเจนนักว่าจะทำอย่างไรกับอำนาจก็ได้มา นอกจากการจัดความสัมพันธ์ของวังกับกองทัพ พลเอกเปรมใช้เวลาส่วนใหญ่ในสี่ปีแรกไปกับการปกป้องเก้าอี้ของตนเอง ซึ่งต้องอาศัยวังตลอดเวลา เหตุการณ์แรกเกิดในเวลาเพียงไม่กี่เดือนหลังจากพลเอกเปรมรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปี 2523 โดยควบทั้งตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมและผบ.ทบ.ซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติมาก เพราะหลังจากยุคเผด็จการถนอม-ประภาสแล้ว การควบตำแหน่งอย่างนี้เป็นสิ่งต้องห้ามในช่วงปฏิรูปปี 2517-18หลังการโค่นล้มสามทรราช แต่พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลก็ได้ทรงโปรดเกล้าฯเห็นดีเห็นงามโดยมิได้ทรงขัดข้องแต่ประการใด มีเสียงบ่นพึมพำกันทั่วไป แต่ก็ยอมๆกันไปเพราะว่าพลเอกเปรมกำลังจะเกษียณจากกองทัพอยู่แล้วเมื่ออายุถึง 60 ในเดือนตุลาคมปีนั้น
แต่พอปลายสิงหาคม2523 นายทหารระดับสูงที่นำโดยพล.ต.อาทิตย์ กำลังเอก นายทหารดาวรุ่งและขวัญใจคนโปรดของพระราชินีสิริกิติ์ได้เรียกร้องให้ต่ออายุราชการของพลเอกเปรมไปอีกหนื่งปี พล.ต.อาทิตย์ผู้วางตนเองเป็นทายาทของพลเอกเปรม ต้องการสกัดคู่แข่งที่อาวุโสเหนือกว่าตนคือรองผบ.ทบ.พล.อ สัณห์ จิตรปฏิมา การต่ออายุราชการถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าทำให้เสียระบบราชการ แม้แต่สมาชิกในรัฐบาลของพลเอกเปรมก็ยังไม่เห็นด้วยและเตือนว่าการต่ออายุราชการแบบเดียวกันนี้ให้กับพลเอกประภาสได้มีส่วนนำไปสู่การลุกฮือในปี 2516 แต่ในวันที่ 1 กันยายน 2523 พลเอกเปรมก็กลับออกมาจากการเข้าเฝ้าในหลวงและประกาศว่าพระเจ้าอยู่หัวทรงสนับสนุนการต่ออายุราชการให้เขา เมื่อรัฐมนตรีเรียกร้องขอข้อพิสูจน์ พวกเขาก็ถูกเรียกให้เข้าเฝ้าในหลวง แล้วพวกเขาก็กลับออกมาและสนับสนุนการต่ออายุราชการให้พลเอกเปรม
มีนักการเมืองหนุ่มบางส่วนไม่ยอมเงียบ เช่น นายชวน หลีกภัย สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ที่บอกว่าการต่ออายุราชการเป็นการสวนทางประชาธิปไตย และยังเติร์กบางส่วนก็คัดค้านด้วยเช่นกัน แม้จะเป็นเพราะว่าพวกเขาต่อต้านพล.ต.อาทิตย์เป็นหลักก็ตาม รวมทั้งขบวนนักศึกษาที่ฟื้นจากการหลับไหลได้ออกมาทำการประท้วงเล็กๆน้อยๆ แต่ก็ต้องหยุดไปเมื่อได้รับการข่มขู่จากหัวหน้ากระทิงแดงพล.ต.สุตสายที่ประกาศว่า “ผมต้องการให้คนรู้ว่าผมเป็นบุคคลอันตราย”
ทรงมีพระบรมราโชวาทในวันเฉลิมพระชนมพรรษาเดือนธันวาคมปี 2523 สนับสนุนพลเอกเปรมด้วยการวิจารณ์พวกนิยมประชาธิปไตยว่า“ผู้มีสติปัญญาบางคนพัฒนาทฤษฎีที่มักจะหยิบยืมมาจากต่างประเทศ ใช้คำวา“หยิบยืม”เพราะว่าไม่ใช่ของเรา นักวิชาการยืมเทคโนโลยีและพยายามทำให้มันประสบผลสำเร็จในประเทศไทย เพื่อจะได้รับการชื่นชมว่าเก่งกาจที่สามารถใช้เทคโนโลยีและทฤษฎีที่ไม่ใช่ของไทยได้” เท่ากับว่าทรงประกาศสนับสนุนพลเอกเปรมอย่าง
แต่ที่สำคัญคือคำสั่งเหล่านี้ ทำให้กองทัพมีบทบาทครอบงำทั้งในการบริหารประเทศและสังคม เพราะคำสั่งดังกล่าวสร้างความชอบด้วยกฎหมายและความชอบธรรมแก่กองทัพในการก่อร่างระบบการเมือง “ที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง” กองทัพจะปฏิบัติการ “รุกทางการเมือง” เพื่อสร้างความยุติธรรมทางสังคมและขจัดรากเหง้าการทุจริตและการเอารัดเอาเปรียบมันเป็น “ภารกิจศักดิ์สิทธิ์” ของพวกเขาที่จะต้องเผชิญหน้ากับทั้งพลังราชการพลเรือนและทุนนิยมผูกขาดที่ทำให้ประชาชนไม่พอใจรัฐบาล นี่คือการรัฐประหารเงียบอย่างแท้จริงในปี 2523 คำสั่งทั้งสองฉบับประกาศการสนับสนุนรัฐธรรมนูญและระบอบประชาธิปไตยรัฐสภาโดยมีกษัตริย์เป็นประมุข แต่ภายในกรอบนี้ รัฐธรรมนูญกับรัฐสภาไม่ได้ถูกนำมาใช้ขณะที่ในหลวงกับพลเอกเปรมกุมอำนาจผ่านกองทัพ ขณะที่กองทัพได้อำนาจตามกฎหมายตามประกาศคำสั่งของสำนักนายกรัฐมนตรีสมัยพลเอกเปรมที่ทำให้กองทัพมีอำนาจเหนือทั้งรัฐสภาและรัฐธรรมนูญ จะเป็นรองก็แต่เพียงวังเท่านั้น
พลเอกเปรมไม่ได้มีแผนที่ชัดเจนนักว่าจะทำอย่างไรกับอำนาจก็ได้มา นอกจากการจัดความสัมพันธ์ของวังกับกองทัพ พลเอกเปรมใช้เวลาส่วนใหญ่ในสี่ปีแรกไปกับการปกป้องเก้าอี้ของตนเอง ซึ่งต้องอาศัยวังตลอดเวลา เหตุการณ์แรกเกิดในเวลาเพียงไม่กี่เดือนหลังจากพลเอกเปรมรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปี 2523 โดยควบทั้งตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมและผบ.ทบ.ซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติมาก เพราะหลังจากยุคเผด็จการถนอม-ประภาสแล้ว การควบตำแหน่งอย่างนี้เป็นสิ่งต้องห้ามในช่วงปฏิรูปปี 2517-18หลังการโค่นล้มสามทรราช แต่พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลก็ได้ทรงโปรดเกล้าฯเห็นดีเห็นงามโดยมิได้ทรงขัดข้องแต่ประการใด มีเสียงบ่นพึมพำกันทั่วไป แต่ก็ยอมๆกันไปเพราะว่าพลเอกเปรมกำลังจะเกษียณจากกองทัพอยู่แล้วเมื่ออายุถึง 60 ในเดือนตุลาคมปีนั้น
แต่พอปลายสิงหาคม2523 นายทหารระดับสูงที่นำโดยพล.ต.อาทิตย์ กำลังเอก นายทหารดาวรุ่งและขวัญใจคนโปรดของพระราชินีสิริกิติ์ได้เรียกร้องให้ต่ออายุราชการของพลเอกเปรมไปอีกหนื่งปี พล.ต.อาทิตย์ผู้วางตนเองเป็นทายาทของพลเอกเปรม ต้องการสกัดคู่แข่งที่อาวุโสเหนือกว่าตนคือรองผบ.ทบ.พล.อ สัณห์ จิตรปฏิมา การต่ออายุราชการถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าทำให้เสียระบบราชการ แม้แต่สมาชิกในรัฐบาลของพลเอกเปรมก็ยังไม่เห็นด้วยและเตือนว่าการต่ออายุราชการแบบเดียวกันนี้ให้กับพลเอกประภาสได้มีส่วนนำไปสู่การลุกฮือในปี 2516 แต่ในวันที่ 1 กันยายน 2523 พลเอกเปรมก็กลับออกมาจากการเข้าเฝ้าในหลวงและประกาศว่าพระเจ้าอยู่หัวทรงสนับสนุนการต่ออายุราชการให้เขา เมื่อรัฐมนตรีเรียกร้องขอข้อพิสูจน์ พวกเขาก็ถูกเรียกให้เข้าเฝ้าในหลวง แล้วพวกเขาก็กลับออกมาและสนับสนุนการต่ออายุราชการให้พลเอกเปรม
มีนักการเมืองหนุ่มบางส่วนไม่ยอมเงียบ เช่น นายชวน หลีกภัย สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ที่บอกว่าการต่ออายุราชการเป็นการสวนทางประชาธิปไตย และยังเติร์กบางส่วนก็คัดค้านด้วยเช่นกัน แม้จะเป็นเพราะว่าพวกเขาต่อต้านพล.ต.อาทิตย์เป็นหลักก็ตาม รวมทั้งขบวนนักศึกษาที่ฟื้นจากการหลับไหลได้ออกมาทำการประท้วงเล็กๆน้อยๆ แต่ก็ต้องหยุดไปเมื่อได้รับการข่มขู่จากหัวหน้ากระทิงแดงพล.ต.สุตสายที่ประกาศว่า “ผมต้องการให้คนรู้ว่าผมเป็นบุคคลอันตราย”
ทรงมีพระบรมราโชวาทในวันเฉลิมพระชนมพรรษาเดือนธันวาคมปี 2523 สนับสนุนพลเอกเปรมด้วยการวิจารณ์พวกนิยมประชาธิปไตยว่า“ผู้มีสติปัญญาบางคนพัฒนาทฤษฎีที่มักจะหยิบยืมมาจากต่างประเทศ ใช้คำวา“หยิบยืม”เพราะว่าไม่ใช่ของเรา นักวิชาการยืมเทคโนโลยีและพยายามทำให้มันประสบผลสำเร็จในประเทศไทย เพื่อจะได้รับการชื่นชมว่าเก่งกาจที่สามารถใช้เทคโนโลยีและทฤษฎีที่ไม่ใช่ของไทยได้” เท่ากับว่าทรงประกาศสนับสนุนพลเอกเปรมอย่าง
ต่อ
พรรคร่วมรัฐบาลภายใตการนำของตนเปน “รัฐบาลในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ซึ่งมีความจริงและลึกซึ้งหนักแน่นกว่าที่เคยอ้างๆกันมาเพราะพลเอกเปรมได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างไม่ค่อยเต็มใจต่อมาเป็นเวลาถึง 8 ป ภายใตการปกป้องคุ้มครองอยางเต็มที่ของพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล
ถือได้ว่าพลเอกเปรมเป็นนายกรัฐมนตรีตามพระราชประสงค์ของพระเจ้าอยู่หัวอย่างแท้จริง คือ เป็นนายกรัฐมนตรีที่เทิดทูนในหลวงภูมิพลไว้เหนือหัวและปกครองประเทศด้วยคุณธรรมตามแบบที่พระเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเหนือกว่านายกรัฐมนตรีคนก่อนๆ กล่าวคือ จอมพลสฤษดิ์มีความจงรักภักดีสูงแต่ทุจริตและมักมากในกามารมณ์ จอมพลถนอมและจอมพลประภาสผู้กักขละก็ไม่มีประสิทธิภาพและเป็นแค่หุ่นเชิดของสหรัฐ สัญญากับคึกฤทธิ์ก็ไม่มีน้ำยา ยึดติดกับรูปแบบประชาธิปไตยและฐานสนับสนุนจากประชาชนมากไป ส่วนธานินทรเปนคนไมหยืดหยุ่นแข็งตัวและไมมีปัญญาคุมทหาร ในขณะที่เกรียงศักดิ์ทำตัวเปนอิสระเป็นตัวของตัวเองมากเกินไป ไม่ค่อยรับใช้พระเจ้าอยู่หัวและพระราชวงศ์เท่าที่ควร
แต่พลเอกเปรมเข้มแข็ง มีวินัย และไม่แสดงอาการอยากร่ำอยากรวยและความกระสันต์ในอำนาจ พลเอกเปรมเข้าใจดีว่าพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลไม่มีพระประสงค์ในการบริหารราชการแผ่นดินแบบวันต่อวัน แต่ทรงต้องการมีใครสักคนคอยรับสนองเวลาพระองค์มีพระบรมราชโองการหรือมีพระราชดำริ ทั้งในหลวงและพลเอกเปรมต่างก็มีความเชื่อร่วมกันในโครงสร้างลำดับชั้นตามธรรมชาติของไทยและความเป็นระเบียบเรียบร้อยทางสังคมที่อาจจะต้องใช้กำลังบังคับหากจำเป็น ในช่วงทศวรรษ 2520 พลเอกเปรมเป็นผู้เปิดศักราชใหม่ของการประจบประแจงเทิดทูนวัง โดยมีกองทัพและภาคเอกชนให้การสนับสนุน ในช่วงแปดปีที่ครองอำนาจ พลเอกเปรมได้นำพระราชวงศ์ผ่านช่วงที่น่าตื่นเต้นขวัญผวาไปสู่ความเป็นพ่อแห่งชาติและแม่แห่งชาติ ในช่วงทศวรรษ 2520 พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลทรงทำการแทรกแซงอย่างไม่กระดากพระทัยเป็นประจำด้วยร่างทรงของพระองค์ที่ชื่อพลเอกเปรม ส่วนพลเอกเปรมก็ไม่มีความเหนียมอายที่จะเอาหลังพิงวัง ผู้สังเกตการณ์การเมืองไทยมา 40 ปีรายหนึ่งกล่าวว่า “เมื่อไหรก็ตามที่พลเอกมีรอยฟกช้ำดำเขียว เขาก็จะตรงเข้าวังเพื่อฉีดยาและกระชุ่มกระชวยกลับออกมา และเมื่อพลเอกเปรมโผล่ออกมาจากสวนจิตร บรรดาปรปักษ์ของเขาก็จะพากันหดหัวไปอย่างรวดเร็ว”
ยิ่งกว่านั้น พันธมิตรระหว่างในหลวงและพลเอกเปรมก็ได้พยายามที่จะปลูกฝังความคิดเรื่องรัฐบาลของพระเจ้าอยู่หัวและให้ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญในฐานะโครงสร้างอำนาจของวังและกองทัพ ในทางหลักการแล้ว ขุนทหารของพระเจ้าอยู่หัวน่าจะรักษาระบบที่เป็นอยู่ด้วยการส่งเสริมทหารอาชีพที่จงรักภักดีแบบเดียวกันให้ขึ้นสู่ตำแหน่งสูงหรือเป็นแผงหน้าของกองทัพ และนายพลผู้ทรงคุณธรรมเหล่านี้ก็จะกลายเป็นชนชั้นนำรุ่นใหม่ แต่ว่าการผงาดเติบใหญ่ของพลเอกเปรมกลับไปเพิ่มการชิงดีชิงเด่นเล่นพรรคเล่นพวกที่ไม่มีคุณธรรมเพียงต้องการประจบเอาใจวัง ทำให้กองทัพเต็มไปด้วยการแบ่งพรรคแบ่งพวกกับความหย่อนยานทางวินัย การเมืองในยุคพลเอกเปรมจึงไม่มีเสถียรภาพและมีหลายครั้งที่ปั่นป่วนอย่างรุนแรง แต่วังและพลเอกเปรมก็ยังถือว่านั่นคือสิ่งยืนยันความชอบธรรม หลังจากการแย่งชิงอำนาจกันเองในกลุ่มทหารหลายครั้งหลายรอบ มรว.ทองน้อย ทองใหญ่เลขาคณะองคมนตรีก็ประกาศว่ามันแสดงให้เห็นว่ามีแต่กษัตริย์เท่านั้นที่สามารถนำประเทศได้ “ต่อให้คนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดมาเป็นประธานาธิบดีของประเทศจะสามารถนำพาประเทศฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ ยามวิกฤติได้หรือ? ประชาชนไม่มีศรัทธาในตัวเขา แต่ในขณะเดียวกันสถาบันกษัตริย์และกษัตริย์ของเราสามารถทำได้”
การขื้นสู่อำนาจของพลเอกเปรมในตอนแรกไม่ได้เป็นประเด็นสำหรับคนไทยส่วนใหญ่ เพราะภัยคุกคามจากเวียตนามกับพคท.ยังเป็นข้ออ้างสร้างความชอบธรรมให้กับการครองอำนาจของทหาร และด้วยการสนับสนุนจากในหลวงภูมิพล พลเอกเปรมได้ใช้ประโยชน์จากภาวะยอมๆกันไปนี้ในการสร้างอำนาจทางทหารให้กลายเป็นสถาบันขึ้นมามากยิ่งขื้นไปอีก ขั้นแรกคือการวางกรอบหลักการ ในรูปของคำสั่ง 66/2523 ซึ่งเป็นคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่เป็นหลักการสำคัญที่พลเอกเปรมประกาศออกมาหลังจากกุมอำนาจรัฐบาลได้เพียงเจ็ดสัปดาห์ เมื่อผนวกกับคำสั่ง 65/2525 ที่ออกตามมาในภายหลัง ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงโฉมหน้านโยบายต่อต้านคอมมิวนิสต์ขนานใหญ่ เป้าหมายคือการเอาชนะพคท.ด้วยการจัดการปัญหาที่แท้จริงของ
ถือได้ว่าพลเอกเปรมเป็นนายกรัฐมนตรีตามพระราชประสงค์ของพระเจ้าอยู่หัวอย่างแท้จริง คือ เป็นนายกรัฐมนตรีที่เทิดทูนในหลวงภูมิพลไว้เหนือหัวและปกครองประเทศด้วยคุณธรรมตามแบบที่พระเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเหนือกว่านายกรัฐมนตรีคนก่อนๆ กล่าวคือ จอมพลสฤษดิ์มีความจงรักภักดีสูงแต่ทุจริตและมักมากในกามารมณ์ จอมพลถนอมและจอมพลประภาสผู้กักขละก็ไม่มีประสิทธิภาพและเป็นแค่หุ่นเชิดของสหรัฐ สัญญากับคึกฤทธิ์ก็ไม่มีน้ำยา ยึดติดกับรูปแบบประชาธิปไตยและฐานสนับสนุนจากประชาชนมากไป ส่วนธานินทรเปนคนไมหยืดหยุ่นแข็งตัวและไมมีปัญญาคุมทหาร ในขณะที่เกรียงศักดิ์ทำตัวเปนอิสระเป็นตัวของตัวเองมากเกินไป ไม่ค่อยรับใช้พระเจ้าอยู่หัวและพระราชวงศ์เท่าที่ควร
แต่พลเอกเปรมเข้มแข็ง มีวินัย และไม่แสดงอาการอยากร่ำอยากรวยและความกระสันต์ในอำนาจ พลเอกเปรมเข้าใจดีว่าพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลไม่มีพระประสงค์ในการบริหารราชการแผ่นดินแบบวันต่อวัน แต่ทรงต้องการมีใครสักคนคอยรับสนองเวลาพระองค์มีพระบรมราชโองการหรือมีพระราชดำริ ทั้งในหลวงและพลเอกเปรมต่างก็มีความเชื่อร่วมกันในโครงสร้างลำดับชั้นตามธรรมชาติของไทยและความเป็นระเบียบเรียบร้อยทางสังคมที่อาจจะต้องใช้กำลังบังคับหากจำเป็น ในช่วงทศวรรษ 2520 พลเอกเปรมเป็นผู้เปิดศักราชใหม่ของการประจบประแจงเทิดทูนวัง โดยมีกองทัพและภาคเอกชนให้การสนับสนุน ในช่วงแปดปีที่ครองอำนาจ พลเอกเปรมได้นำพระราชวงศ์ผ่านช่วงที่น่าตื่นเต้นขวัญผวาไปสู่ความเป็นพ่อแห่งชาติและแม่แห่งชาติ ในช่วงทศวรรษ 2520 พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลทรงทำการแทรกแซงอย่างไม่กระดากพระทัยเป็นประจำด้วยร่างทรงของพระองค์ที่ชื่อพลเอกเปรม ส่วนพลเอกเปรมก็ไม่มีความเหนียมอายที่จะเอาหลังพิงวัง ผู้สังเกตการณ์การเมืองไทยมา 40 ปีรายหนึ่งกล่าวว่า “เมื่อไหรก็ตามที่พลเอกมีรอยฟกช้ำดำเขียว เขาก็จะตรงเข้าวังเพื่อฉีดยาและกระชุ่มกระชวยกลับออกมา และเมื่อพลเอกเปรมโผล่ออกมาจากสวนจิตร บรรดาปรปักษ์ของเขาก็จะพากันหดหัวไปอย่างรวดเร็ว”
ยิ่งกว่านั้น พันธมิตรระหว่างในหลวงและพลเอกเปรมก็ได้พยายามที่จะปลูกฝังความคิดเรื่องรัฐบาลของพระเจ้าอยู่หัวและให้ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญในฐานะโครงสร้างอำนาจของวังและกองทัพ ในทางหลักการแล้ว ขุนทหารของพระเจ้าอยู่หัวน่าจะรักษาระบบที่เป็นอยู่ด้วยการส่งเสริมทหารอาชีพที่จงรักภักดีแบบเดียวกันให้ขึ้นสู่ตำแหน่งสูงหรือเป็นแผงหน้าของกองทัพ และนายพลผู้ทรงคุณธรรมเหล่านี้ก็จะกลายเป็นชนชั้นนำรุ่นใหม่ แต่ว่าการผงาดเติบใหญ่ของพลเอกเปรมกลับไปเพิ่มการชิงดีชิงเด่นเล่นพรรคเล่นพวกที่ไม่มีคุณธรรมเพียงต้องการประจบเอาใจวัง ทำให้กองทัพเต็มไปด้วยการแบ่งพรรคแบ่งพวกกับความหย่อนยานทางวินัย การเมืองในยุคพลเอกเปรมจึงไม่มีเสถียรภาพและมีหลายครั้งที่ปั่นป่วนอย่างรุนแรง แต่วังและพลเอกเปรมก็ยังถือว่านั่นคือสิ่งยืนยันความชอบธรรม หลังจากการแย่งชิงอำนาจกันเองในกลุ่มทหารหลายครั้งหลายรอบ มรว.ทองน้อย ทองใหญ่เลขาคณะองคมนตรีก็ประกาศว่ามันแสดงให้เห็นว่ามีแต่กษัตริย์เท่านั้นที่สามารถนำประเทศได้ “ต่อให้คนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดมาเป็นประธานาธิบดีของประเทศจะสามารถนำพาประเทศฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ ยามวิกฤติได้หรือ? ประชาชนไม่มีศรัทธาในตัวเขา แต่ในขณะเดียวกันสถาบันกษัตริย์และกษัตริย์ของเราสามารถทำได้”
การขื้นสู่อำนาจของพลเอกเปรมในตอนแรกไม่ได้เป็นประเด็นสำหรับคนไทยส่วนใหญ่ เพราะภัยคุกคามจากเวียตนามกับพคท.ยังเป็นข้ออ้างสร้างความชอบธรรมให้กับการครองอำนาจของทหาร และด้วยการสนับสนุนจากในหลวงภูมิพล พลเอกเปรมได้ใช้ประโยชน์จากภาวะยอมๆกันไปนี้ในการสร้างอำนาจทางทหารให้กลายเป็นสถาบันขึ้นมามากยิ่งขื้นไปอีก ขั้นแรกคือการวางกรอบหลักการ ในรูปของคำสั่ง 66/2523 ซึ่งเป็นคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่เป็นหลักการสำคัญที่พลเอกเปรมประกาศออกมาหลังจากกุมอำนาจรัฐบาลได้เพียงเจ็ดสัปดาห์ เมื่อผนวกกับคำสั่ง 65/2525 ที่ออกตามมาในภายหลัง ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงโฉมหน้านโยบายต่อต้านคอมมิวนิสต์ขนานใหญ่ เป้าหมายคือการเอาชนะพคท.ด้วยการจัดการปัญหาที่แท้จริงของ
ต่อ
ตรงไปตรงมา ถนัดเรื่องลับลวงพรางและปิดบังเส้นสายพรรคพวกของตน ชอบเล่นพรรคเล่นพวกและการประจบสอพลอจากผู้ใต้บังคับบัญชา เป็นพวกเจ้ายศเจ้าอย่างทำตัวเหมือนเป็นเชื้อพระวงศ์ ที่ไม่ส่งเสริมทหารอาชีพแบบที่ตนเองได้เคยเป็นมา เป็นคนพูดน้อย ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จะให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนน้อยมาก จนถูกหนังสือพิมพ์ในขณะนั้นเรียกขานว่า เตมีย์ใบ้
ส่วนใหญ่แล้วพลเอกเปรมก็ตั้งหน้าประจบประแจงตั้งใจทำงานถวายหัวให้ราชวงศ์จักรีและเทิดทูนในหลวงภูมิพลเป็นชีวิตจิตใจกลายเป็นตัวแทนของวังที่ชัดเจน เห็นได้จากการแต่งตั้งผบ.ทบ.ในเดือนสิงหาคม ในเดือนสิงหาคม 2521 เมื่อนายกเกรียงศักดิ์เตรียมเสนอชื่อพลเอกเสริม ณ นครที่จัดว่ากลางๆทางการเมืองให้ควบตำแหน่งผบ.สูงสุดและผบ.ทบ. แต่มรว.คึกฤทธิ์ได้เขียนลงสยามรัฐสนับสนุนพลเอกเปรมว่า”ผมคิดว่าคนที่น่าจะเป็นผบ.ทบ.ก็คือ เปรม ติณสูลานนท์” ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นการส่งสัญญาณสนับสนุนจากวัง และหกวันหลังจากนั้นนายกเกรียงศักดิ์ก็เสนอชื่อพลเอกเปรมเป็นผบ.ทบ.และให้พลเอกเสริมเป็นแค่ผบ.สูงสุดที่มีอำนาจน้อยกว่า เพราะพลเอกเสริมมีท่าทีที่ค่อนข้างเป็นกลางไม่ใช่พวกที่ทำงานถวายหัวให้วังอย่างเต็มที่และอาจเป็นเพราะตระกูล ณ นครสืบเชื้อสายมาจากพระเจ้าตากสินที่ถูกต้นตระกูลของราชวงศ์จักรีแย่งชิงราชสมบัติ การแต่งตั้งพลเอกเปรมเป็นผบ.ทบ.ในครั้งนี้เท่ากับว่าพลเอกเปรมได้เลื่อนข้ามหัวนายทหารที่มีอาวุโสกว่าหลายคนและในหลายปีต่อมาพลเอกเปรมก็ยังได้โยกย้ายคนของตนเองเข้ามากุมตำแหน่งสำคัญๆในกองทัพ ทำให้เขามีอำนาจต่อรองในวุฒิสภาที่เต็มไปด้วยทหารสายพลเอกเปรมและเป็นช่วงเวลาที่รัฐบาลเกรียงศักดิ์ไม่ค่อยมั่นคงแข็งแกร่งเพราะมีกลุ่มนายทหารที่ต้องการแข่งขันแย่งอำนาจกันและเขาไมมีฐานสนับสนุนจากส.ส.ที่แข็งแกร่งหรือจากวัง ทั้งยังมีคูู่แขงที่น่ากลัวอยางมรว.คึกฤทธิ์ หัวหนาพรรคกิจสังคมซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ขณะเดียวกัน รัฐบาลเกรียงศักดิ์ยังประสบความลมเหลวในการแก่ปญหาของประเทศในขณะนั้น เช่นปญหาน้ำมันแพง, เศรษฐกิจตกต่ำ,และภัยอันอาจเกิดจากการรุกรานของเวียตนามต่อกัมพูชา สถานการณเหลานี้นำไปสู่การฉวยโอกาสของพระเจ้าอยู่หัวที่จะผลักดันพลเอกเปรมขึ้นมาแทนนายกเกรียงศักดิ์และเปนตัวแทนของพระองค์ในการเลนการเมืองอย่างนายธานินทร์ที่เคยเป็นร่างทรงให้กับวัง แต่คราวนี้จะใช้ขุนทหารอย่างพลเอกเปรมที่กุมอำนาจของกองทัพไว้ในมือด้วย ในสถานการณ ที่รัฐบาลเกรียงศักดิ์กำลังตกอับ เปรมและวังก็ได้โอกาสถล่มรัฐบาลเกรียงศักดิ์ โดยพลเอกเปรมได้ยกเลิกกำหนดการติดตามพระราชินีและฟ้าชายเสด็จสหรัฐอย่างกระทันหันในตน เดือน มกราคม 2523 พรอมกับวิจารณ์โจมตีรัฐบาลเกรียงศักดิ์อย่างหนัก เช่น เรื่องปัญหาน้ำมันขึ้นราคา ขณะที่พลตรีสุตสายไดใชโอกาสในการประทวงตอตานคอมมิวนิสต์ของกระทิงแดงทำการปราศัยโจมตีรัฐบาลเกรียงศักดิ์ในวันที่ 24 มกราคม 2523 การที่ทางวังให้พลเอกเปรมติดตามพระราชินีสิริกิติ์และฟ้าชายเสด็จเยือนสหรัฐเป็นเวลาสามเดือนเป็นการประกาศให้เห็นว่าพลเอกเปรมเป็นคนของวังที่รับใช้เจ้าโดยตรง ทั้งๆที่พลเอกเปรมเป็นผบ.ทบ.แต่วังให้ตามเสด็จเป็นเวลาถึงสามเดือน แทนที่จะเฝ้าระวังสถานการณ์ตึงเครียดจากการที่ทหารเวียตนามกำลังประจันหน้ากองทัพไทยแค่ข้ามพรมแดนไทย-กัมพูชา มรว.คึกฤทธิ์ หัวหน้าพรรคกิจสังคมก็มองเห็นโอกาสที่ตนจะกลับมาเป็นนายกฯอีกครั้งจึงยื่นเรื่องขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเกรียงศักดิ์ในตนเดือนกุมภาพันธ 2523 และกลุ่มยังเติรกที่เคยหนุนเกรียงศักด์ขึ้นสู่อำนาจ ก็ไดหันมาสนับสนุนเรียกร้องให้พลเอกเปรมขึ้นเปนนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ทั้งๆที่พลเอกเปรมไม่ใชคู่แข่งขันทางการเมืองอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด
มาถึงขั้นนี้ทางวังตองการให้มีการเปลี่ยนผานอํานาจทางการเมืองอยางแนบเนียนและราบลื่นเพราะถ้าใช้วิธีรัฐประหารแบบสมัย 6 ตุลา 2519 ก็จะทำให้ประเทศพันธมิตรติฉินนินทาได้ แต่ถ้าจะปล่อยให้นายกเกรียงศักด์ชิงยุบสภาเสียก่อนเพื่อเปดโอกาสให้มีการเลือกตั้งทั่วไป ก็จะมีความเสี่ยงว่าผู้นำรัฐบาลคนตอไปอาจไมไดมาจากกลุ่มนายทหารของวังและไม่มีอะไรประกันว่าจะได้มรว.คึกฤทธิ์แทน ทำให้ต้องมีการโปรดเกล้าฯให้นายกเกรียงศักดิ์และพลเอกเปรมเข้าเฝ้าฯที่เชียงใหม่ในวันที่ 28 กุมภาพันธ 2523 ในวันถัดมา นายกเกรียงศักดิ์ก็ลาออกโดยไม่ยุบสภาและพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงสั่งให้มรว.คึกฤทธิ์ที่กำลังหัวเสียต้องเรียกประชุมสภาเพื่อสนับสนุนพลเอกเปรมเป็นนายกฯ การเปลี่ยนแปลงนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ดูเหมือนจะเป็นไปตามครรลองประชาธิปไตย แต่ที่จริงก็คือการรัฐประหารโดยพระเจ้าอยู่หัวนั่นเอง และชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อพลเอกเปรมไดกลาวคําปฎิญาณตนในการเขารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันที่ 3 มีนาคม 2523 วา
ส่วนใหญ่แล้วพลเอกเปรมก็ตั้งหน้าประจบประแจงตั้งใจทำงานถวายหัวให้ราชวงศ์จักรีและเทิดทูนในหลวงภูมิพลเป็นชีวิตจิตใจกลายเป็นตัวแทนของวังที่ชัดเจน เห็นได้จากการแต่งตั้งผบ.ทบ.ในเดือนสิงหาคม ในเดือนสิงหาคม 2521 เมื่อนายกเกรียงศักดิ์เตรียมเสนอชื่อพลเอกเสริม ณ นครที่จัดว่ากลางๆทางการเมืองให้ควบตำแหน่งผบ.สูงสุดและผบ.ทบ. แต่มรว.คึกฤทธิ์ได้เขียนลงสยามรัฐสนับสนุนพลเอกเปรมว่า”ผมคิดว่าคนที่น่าจะเป็นผบ.ทบ.ก็คือ เปรม ติณสูลานนท์” ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นการส่งสัญญาณสนับสนุนจากวัง และหกวันหลังจากนั้นนายกเกรียงศักดิ์ก็เสนอชื่อพลเอกเปรมเป็นผบ.ทบ.และให้พลเอกเสริมเป็นแค่ผบ.สูงสุดที่มีอำนาจน้อยกว่า เพราะพลเอกเสริมมีท่าทีที่ค่อนข้างเป็นกลางไม่ใช่พวกที่ทำงานถวายหัวให้วังอย่างเต็มที่และอาจเป็นเพราะตระกูล ณ นครสืบเชื้อสายมาจากพระเจ้าตากสินที่ถูกต้นตระกูลของราชวงศ์จักรีแย่งชิงราชสมบัติ การแต่งตั้งพลเอกเปรมเป็นผบ.ทบ.ในครั้งนี้เท่ากับว่าพลเอกเปรมได้เลื่อนข้ามหัวนายทหารที่มีอาวุโสกว่าหลายคนและในหลายปีต่อมาพลเอกเปรมก็ยังได้โยกย้ายคนของตนเองเข้ามากุมตำแหน่งสำคัญๆในกองทัพ ทำให้เขามีอำนาจต่อรองในวุฒิสภาที่เต็มไปด้วยทหารสายพลเอกเปรมและเป็นช่วงเวลาที่รัฐบาลเกรียงศักดิ์ไม่ค่อยมั่นคงแข็งแกร่งเพราะมีกลุ่มนายทหารที่ต้องการแข่งขันแย่งอำนาจกันและเขาไมมีฐานสนับสนุนจากส.ส.ที่แข็งแกร่งหรือจากวัง ทั้งยังมีคูู่แขงที่น่ากลัวอยางมรว.คึกฤทธิ์ หัวหนาพรรคกิจสังคมซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ขณะเดียวกัน รัฐบาลเกรียงศักดิ์ยังประสบความลมเหลวในการแก่ปญหาของประเทศในขณะนั้น เช่นปญหาน้ำมันแพง, เศรษฐกิจตกต่ำ,และภัยอันอาจเกิดจากการรุกรานของเวียตนามต่อกัมพูชา สถานการณเหลานี้นำไปสู่การฉวยโอกาสของพระเจ้าอยู่หัวที่จะผลักดันพลเอกเปรมขึ้นมาแทนนายกเกรียงศักดิ์และเปนตัวแทนของพระองค์ในการเลนการเมืองอย่างนายธานินทร์ที่เคยเป็นร่างทรงให้กับวัง แต่คราวนี้จะใช้ขุนทหารอย่างพลเอกเปรมที่กุมอำนาจของกองทัพไว้ในมือด้วย ในสถานการณ ที่รัฐบาลเกรียงศักดิ์กำลังตกอับ เปรมและวังก็ได้โอกาสถล่มรัฐบาลเกรียงศักดิ์ โดยพลเอกเปรมได้ยกเลิกกำหนดการติดตามพระราชินีและฟ้าชายเสด็จสหรัฐอย่างกระทันหันในตน เดือน มกราคม 2523 พรอมกับวิจารณ์โจมตีรัฐบาลเกรียงศักดิ์อย่างหนัก เช่น เรื่องปัญหาน้ำมันขึ้นราคา ขณะที่พลตรีสุตสายไดใชโอกาสในการประทวงตอตานคอมมิวนิสต์ของกระทิงแดงทำการปราศัยโจมตีรัฐบาลเกรียงศักดิ์ในวันที่ 24 มกราคม 2523 การที่ทางวังให้พลเอกเปรมติดตามพระราชินีสิริกิติ์และฟ้าชายเสด็จเยือนสหรัฐเป็นเวลาสามเดือนเป็นการประกาศให้เห็นว่าพลเอกเปรมเป็นคนของวังที่รับใช้เจ้าโดยตรง ทั้งๆที่พลเอกเปรมเป็นผบ.ทบ.แต่วังให้ตามเสด็จเป็นเวลาถึงสามเดือน แทนที่จะเฝ้าระวังสถานการณ์ตึงเครียดจากการที่ทหารเวียตนามกำลังประจันหน้ากองทัพไทยแค่ข้ามพรมแดนไทย-กัมพูชา มรว.คึกฤทธิ์ หัวหน้าพรรคกิจสังคมก็มองเห็นโอกาสที่ตนจะกลับมาเป็นนายกฯอีกครั้งจึงยื่นเรื่องขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเกรียงศักดิ์ในตนเดือนกุมภาพันธ 2523 และกลุ่มยังเติรกที่เคยหนุนเกรียงศักด์ขึ้นสู่อำนาจ ก็ไดหันมาสนับสนุนเรียกร้องให้พลเอกเปรมขึ้นเปนนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ทั้งๆที่พลเอกเปรมไม่ใชคู่แข่งขันทางการเมืองอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด
มาถึงขั้นนี้ทางวังตองการให้มีการเปลี่ยนผานอํานาจทางการเมืองอยางแนบเนียนและราบลื่นเพราะถ้าใช้วิธีรัฐประหารแบบสมัย 6 ตุลา 2519 ก็จะทำให้ประเทศพันธมิตรติฉินนินทาได้ แต่ถ้าจะปล่อยให้นายกเกรียงศักด์ชิงยุบสภาเสียก่อนเพื่อเปดโอกาสให้มีการเลือกตั้งทั่วไป ก็จะมีความเสี่ยงว่าผู้นำรัฐบาลคนตอไปอาจไมไดมาจากกลุ่มนายทหารของวังและไม่มีอะไรประกันว่าจะได้มรว.คึกฤทธิ์แทน ทำให้ต้องมีการโปรดเกล้าฯให้นายกเกรียงศักดิ์และพลเอกเปรมเข้าเฝ้าฯที่เชียงใหม่ในวันที่ 28 กุมภาพันธ 2523 ในวันถัดมา นายกเกรียงศักดิ์ก็ลาออกโดยไม่ยุบสภาและพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงสั่งให้มรว.คึกฤทธิ์ที่กำลังหัวเสียต้องเรียกประชุมสภาเพื่อสนับสนุนพลเอกเปรมเป็นนายกฯ การเปลี่ยนแปลงนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ดูเหมือนจะเป็นไปตามครรลองประชาธิปไตย แต่ที่จริงก็คือการรัฐประหารโดยพระเจ้าอยู่หัวนั่นเอง และชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อพลเอกเปรมไดกลาวคําปฎิญาณตนในการเขารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันที่ 3 มีนาคม 2523 วา
: พลเอกเปรม นายกของพระเจ้าอยู่หัวตัวจริง
ตำนานกษัตริย์ตอนที่ 10 : พลเอกเปรม นายกของพระเจ้าอยู่หัวตัวจริง
-โดย ช้างเผือก งาดำ
การทํารัฐประหารของพลเอกเกรียงศักดิ์ล้มรัฐบาลธานินทร์ที่เป็นตัวแทนของพระเจ้าอยู่หัวในปี พ.ศ.2520 ไม่ได้ให้บทเรียนแก่ในหลวงเลยว่าพระองค์ทรงถลำเขาไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองในครั้งนั้นมากเกินไปแล้ว ในทางตรงข้ามกลับทำให้พระองค์แค่ตระหนักว่าการมีร่างทรงที่เป็นพลเรือนนั้นไม่เพียงพอ พระองค์จำเป็นต้องมีขุนทหารที่เป็นมือเป็นเท้าของพระองค์และสามารถกุมกองทัพไว้ในมือได้เพื่อสนองพระราชประสงค์ได้อย่างเต็มที่และอย่างมั่นคง บุคคลที่ดูจะมีคุณสมบัติเพียบพรอมในสายพระเนตร ก็คือ พลเอกเปรม รัฐมนตรีคนหนึ่งรัฐบาลเกรียงศักดิ์ สิ่งที่พระองค์ต้องทำก็คือหาโอกาสเหมาะๆ ผลักดันพลเอกเปรมให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนตอไป
รัฐบาลเกรียงศักดิ์ประกาศใช้รัฐธรรมนูญตามที่ได้ให้สัญญาไว้ในป พ.ศ. 2521 ประกอบดวย ระบบสองสภาเหมือนเดิม มีวุฒิสมาชิกสภา 225 คน จากการแต่งตั้งของนายกรัฐมนตรี (ไมใช่กษัตริย์) และ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรที่มาจากการเลือกตั้ง 310 คน ทหารและข้าราชการเปนวุฒิสมาชิกได นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีก็ไมจําเป็นตองเป็นสมาชิกรัฐสภา ทําให้นายกเกรียงศักดิ์สามารถตั้งรัฐมนตรีจากพวกนักวิชาการซึ่งสวนใหญ่เปนที่พอใจของพระเจ้าอยู่หัว และเปิดโอกาสให้พลเอกเกรียงศักดิ์ได้เป็นนายกรัฐมนตรีโดยที่ไม่ตองลงเลือกตั้งและไม่ต้องมีพรรคการเมืองเปนของตนเอง กอนการเลือกตั้งในเดือนเมษายน 2522 พลเอกเกรียงศักดิ์มีวุฒิสมาชิกสภาเกือบ 200 คนในมือ จากกลุมนายทหารและตํารวจที่พลเอกเกรียงศักดิ์แต่งตั้งที่พร้อมสนับสนุนตนให้เป็นนายกรัฐมนตรี
พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เกิดเมื่อ26 สิงหาคม พ.ศ. 2463 แก่กว่าในหลวง 7 ปี ที่ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เป็นบุตรชายคนรองสุดท้อง จากจำนวน 8 คน ของรองอำมาตย์โทหลวงวินิจทัณฑกรรม (บึ้ง ติณสูลานนท์) ต้นตระกูลติณสูลานนท์ สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา และโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย เมื่อ พ.ศ. 2480 จากนั้นเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนเทคนิคทหารบก รุ่นที่ 5 สังกัดเหล่าทหารม้า (โรงเรียนนี้ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2477 ต่อมาคือโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า)เข้ารบในสงครามอินโดจีนระหว่างไทยกับฝรั่งเศส ที่ ปอยเปต กัมพูชา ทำการรบในสงครามโลกครั้งที่สอง ระหว่าง พ.ศ. 2485-2488 ที่เชียงตุง
ติณสูลานนท์ คือนามสกุลพระราชทานจาก รัชกาลที่ 6 ในปี 2462 แก่หลวงวินิจทัณฑกรรม
ความหมายแห่งนามสกุลนี้ถอดความได้ว่า ติณ แปลว่า หญ้า /สูลา แปลว่า คม ยอด /
นนท์ แปลว่า ความพอใจ ความยินดี
ติณสูลานนท์ แปลว่า ความพอใจ หรือความยินดีในหญ้าที่มีคม
ความหมายที่ 2 พระมหาเวก วัดชนะสงคราม อธิบายว่า ติณสูลานนท์ หมายถึง ความยินดีในการปฏิบัติหน้าที่พะทำมะรง (พัศดี) ที่มีเครื่องหมายเป็นของมีคม เช่น หลาว หอก ดาบ
พลเอกเปรมเป็นทหารอาชีพ มีประวัติการรบที่น่าเชื่อถือ เป็นผู้บังคับบัญชาที่มีความเข้มงวดสูงแต่ลูกน้องรัก ไม่มีปัญหากับใคร เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติและสมาชิกวุฒิสภาหลายสมัยติดต่อกัน เป็นแม่ทัพภาคที่สองรับผิดชอบพื้นที่ภาคอิสานกลางทศวรรษที่ 2510 ทำสงครามปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์โดยใช้การเมืองนำการทหารที่ผสมผสานการพัฒนาสังคมกับยุทธการทางทหารที่เด็ดขาด และเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกอรมน.ที่มีเพื่อนเก่าแก่ที่สุดคนหนึ่งคือพลตรีสุตสาย หัสดินที่เป็นหัวหน้ากระทิงแดง ทั้งคู่เข้าโรงเรียนมัธยม โรงเรียนเตรียมทหารและการฝึกอบรมพิเศษในสหรัฐมาด้วยกัน พลเอกเปรมเป็นคนพูดเบามากและเคารพระบบอาวุโสและลำดับฐานะบุคคลอย่างเข้มงวด เป็นคนที่สุภาพเรียบร้อยมากจนไม่มีใครสามารถเปิดเผยรสนิยมรักร่วมเพศของเขาได้ พลเอกเป็นคนหนักแน่นและมีวินัยแต่ค่อนข้างเจ้าเล่ห์ ไม่
-โดย ช้างเผือก งาดำ
การทํารัฐประหารของพลเอกเกรียงศักดิ์ล้มรัฐบาลธานินทร์ที่เป็นตัวแทนของพระเจ้าอยู่หัวในปี พ.ศ.2520 ไม่ได้ให้บทเรียนแก่ในหลวงเลยว่าพระองค์ทรงถลำเขาไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองในครั้งนั้นมากเกินไปแล้ว ในทางตรงข้ามกลับทำให้พระองค์แค่ตระหนักว่าการมีร่างทรงที่เป็นพลเรือนนั้นไม่เพียงพอ พระองค์จำเป็นต้องมีขุนทหารที่เป็นมือเป็นเท้าของพระองค์และสามารถกุมกองทัพไว้ในมือได้เพื่อสนองพระราชประสงค์ได้อย่างเต็มที่และอย่างมั่นคง บุคคลที่ดูจะมีคุณสมบัติเพียบพรอมในสายพระเนตร ก็คือ พลเอกเปรม รัฐมนตรีคนหนึ่งรัฐบาลเกรียงศักดิ์ สิ่งที่พระองค์ต้องทำก็คือหาโอกาสเหมาะๆ ผลักดันพลเอกเปรมให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนตอไป
รัฐบาลเกรียงศักดิ์ประกาศใช้รัฐธรรมนูญตามที่ได้ให้สัญญาไว้ในป พ.ศ. 2521 ประกอบดวย ระบบสองสภาเหมือนเดิม มีวุฒิสมาชิกสภา 225 คน จากการแต่งตั้งของนายกรัฐมนตรี (ไมใช่กษัตริย์) และ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรที่มาจากการเลือกตั้ง 310 คน ทหารและข้าราชการเปนวุฒิสมาชิกได นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีก็ไมจําเป็นตองเป็นสมาชิกรัฐสภา ทําให้นายกเกรียงศักดิ์สามารถตั้งรัฐมนตรีจากพวกนักวิชาการซึ่งสวนใหญ่เปนที่พอใจของพระเจ้าอยู่หัว และเปิดโอกาสให้พลเอกเกรียงศักดิ์ได้เป็นนายกรัฐมนตรีโดยที่ไม่ตองลงเลือกตั้งและไม่ต้องมีพรรคการเมืองเปนของตนเอง กอนการเลือกตั้งในเดือนเมษายน 2522 พลเอกเกรียงศักดิ์มีวุฒิสมาชิกสภาเกือบ 200 คนในมือ จากกลุมนายทหารและตํารวจที่พลเอกเกรียงศักดิ์แต่งตั้งที่พร้อมสนับสนุนตนให้เป็นนายกรัฐมนตรี
พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เกิดเมื่อ26 สิงหาคม พ.ศ. 2463 แก่กว่าในหลวง 7 ปี ที่ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เป็นบุตรชายคนรองสุดท้อง จากจำนวน 8 คน ของรองอำมาตย์โทหลวงวินิจทัณฑกรรม (บึ้ง ติณสูลานนท์) ต้นตระกูลติณสูลานนท์ สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา และโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย เมื่อ พ.ศ. 2480 จากนั้นเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนเทคนิคทหารบก รุ่นที่ 5 สังกัดเหล่าทหารม้า (โรงเรียนนี้ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2477 ต่อมาคือโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า)เข้ารบในสงครามอินโดจีนระหว่างไทยกับฝรั่งเศส ที่ ปอยเปต กัมพูชา ทำการรบในสงครามโลกครั้งที่สอง ระหว่าง พ.ศ. 2485-2488 ที่เชียงตุง
ติณสูลานนท์ คือนามสกุลพระราชทานจาก รัชกาลที่ 6 ในปี 2462 แก่หลวงวินิจทัณฑกรรม
ความหมายแห่งนามสกุลนี้ถอดความได้ว่า ติณ แปลว่า หญ้า /สูลา แปลว่า คม ยอด /
นนท์ แปลว่า ความพอใจ ความยินดี
ติณสูลานนท์ แปลว่า ความพอใจ หรือความยินดีในหญ้าที่มีคม
ความหมายที่ 2 พระมหาเวก วัดชนะสงคราม อธิบายว่า ติณสูลานนท์ หมายถึง ความยินดีในการปฏิบัติหน้าที่พะทำมะรง (พัศดี) ที่มีเครื่องหมายเป็นของมีคม เช่น หลาว หอก ดาบ
พลเอกเปรมเป็นทหารอาชีพ มีประวัติการรบที่น่าเชื่อถือ เป็นผู้บังคับบัญชาที่มีความเข้มงวดสูงแต่ลูกน้องรัก ไม่มีปัญหากับใคร เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติและสมาชิกวุฒิสภาหลายสมัยติดต่อกัน เป็นแม่ทัพภาคที่สองรับผิดชอบพื้นที่ภาคอิสานกลางทศวรรษที่ 2510 ทำสงครามปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์โดยใช้การเมืองนำการทหารที่ผสมผสานการพัฒนาสังคมกับยุทธการทางทหารที่เด็ดขาด และเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกอรมน.ที่มีเพื่อนเก่าแก่ที่สุดคนหนึ่งคือพลตรีสุตสาย หัสดินที่เป็นหัวหน้ากระทิงแดง ทั้งคู่เข้าโรงเรียนมัธยม โรงเรียนเตรียมทหารและการฝึกอบรมพิเศษในสหรัฐมาด้วยกัน พลเอกเปรมเป็นคนพูดเบามากและเคารพระบบอาวุโสและลำดับฐานะบุคคลอย่างเข้มงวด เป็นคนที่สุภาพเรียบร้อยมากจนไม่มีใครสามารถเปิดเผยรสนิยมรักร่วมเพศของเขาได้ พลเอกเป็นคนหนักแน่นและมีวินัยแต่ค่อนข้างเจ้าเล่ห์ ไม่
"พรรคคอมมิวนิสต์ไทย"

จับสัญญาณฟื้น"พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย"
วิเคราะห์สถานการณ์
·· จริง ๆ แล้วขณะนี้ พรรคการเมืองทางเลือก กำลังเริ่มต้นก่อตัวขึ้นหลากทางหลายที่มา “เซี่ยงเส้าหลง” ได้ยินมาว่านอกจาก พรรคมหาชน และ พรรคทางเลือกที่สาม – The Third Alternative Party (ที่ยึดแนวทาง ศ.ดร.อมร จันทรสมบูรณ์) แล้วยังมี การเคลื่อนไหว ของ ผู้ปฏิบัติงานมวลชน-งานการเมือง ที่มีฐานการทำงานอยู่ใน ภาคอีสาน ก่อตัวขึ้นมา 2 – 3 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งทำงานทางด้าน สหกรณ์การเกษตร ริเริ่มจัดตั้งพรรคการเมืองชื่อ พรรคประชาชนไทย อีกกลุ่มหนึ่งที่น่าสนใจมากก็คือสมาชิกและผู้ปฏิบัติงานของ พคท. – พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ริเริ่มเรียกร้องให้มีการจัดประชุม สมัชชาพรรคครั้งที่ 5 ขึ้นมาเพื่อ ปรับองค์กร, ปรับบุคลากร และ กำหนดยุทธศาสตร์-ยุทธวิธีใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งถ้า สำเร็จ ในระยะเวลาจากนี้ไปไม่นานเราอาจได้เห็น พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในสถานการณ์ใหม่ ที่ล้มเลิกยุทธศาสตร์-ยุทธวิธีเดิม ยึดอำนาจรัฐโดยใช้กำลังอาวุธโดยหนทางชนบทล้อมเมือง มาเป็นยุทธศาสตร์-ยุทธวิธีใหม่ที่รวม การสมัครรับเลือกตั้งในระบบรัฐสภา ด้วยก็เป็นได้
·· หากไม่ติดยึดแต่ กรอบกฎหมาย ของ พระราชบัญญัติพรรคการเมืองฉบับต่าง ๆ, รัฐธรรมนูญฉบับต่าง ๆแล้วก็ต้องยอมรับว่าพรรคการเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยก็คือ พคท. – พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ที่ก่อตั้งเมื่อ วันที่ 1 ธันวาคม 2485 นับจนถึงวันนี้เกือบ ๆ จะ 62 ปีเต็ม แล้ว
·· ถือว่าเก่าแก่กว่า พรรคประชาธิปัตย์ ที่ก่อตั้งเป็นทางการเมื่อ วันที่ 6 เมษายน 2489 อยู่ถึง 4 ปี ทีเดียว
·· ฐานภาพของ พคท. – พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย วันนี้แม้จะไม่ถือว่าเป็น พรรคการเมืองตามกฎหมาย เพราะไม่ได้ จดทะเบียน แต่ถือได้ว่าเป็น พรรคการเมืองในทางปฏิบัติ ที่มี อุดมการณ์ชัดเจน คือดำเนินตาม ลัทธิมาร์กซ์, ลัทธิเลนิน และ ความคิดเหมาเจ๋อตง ที่สำคัญคือนับแต่ ปี 2543 เป็นต้นมาที่มีการยกเลิก พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ พ.ศ. 2476 ฐานภาพการรวมตัวกันในลักษณะนี้ ไม่ผิดกฎหมาย อันที่จริงในอดีตสมัย หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ประเทศไทยยกเลิกพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าวช่วงสั้น ๆ เพื่อเอาใจ สหภาพโซเวียต หนึ่งใน แกนนำ ของ สหประชาชาติ ก็ได้ทำให้ สภาผู้แทนราษฎร ของเราในสมัยนั้นมีสมาชิกที่ สังกัดพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย มาแล้ว 1 คน คือ ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร จาก สุราษฎร์ธานี เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกหากในอนาคตจะมี ส.ส.พรรคคอมมิวนิสต์ ขึ้นมาสัก จำนวนหนึ่ง ขณะนี้แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไปแต่ผู้คนตั้งแต่ระดับปัญญาชนลงไปจนถึงระดับรากหญ้าจำนวนไม่น้อยที่ยัง คิดถึง การรื้อฟื้น พคท. – พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ขึ้นมาให้เป็น ทางเลือกใหม่ของสังคมไทย ในอนาคตอันใกล้นี้
·· ฐานภาพของ พคท. – พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย วันนี้มี ธง แจ่มศรี (ในชั้นต้นใช้นาม ประชา ธัญญไพบูลย์) ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการพรรค ล่าสุดก็อย่างที่ “เซี่ยงเส้าหลง” เคยแจ้งให้ทราบแล้วว่า ผู้เฒ่าวัย 83 ที่เคยอยู่อย่าง ปิด เริ่ม เปิด ชนิดน่าจับตาตั้งแต่มาร่วมงาน เพลงปฏิวัติ กระทั่งล่าสุดให้สัมภาษณ์พิเศษนิตยสารรายเดือน สารคดี ยาวเหยียด
·· อันที่จริงก่อนหน้านี้ตั้งแต่ ปี 2522 ที่เลขาธิการพรรคคนก่อนหน้าคือ เจริญ วรรณงาม (ในนาม มิตร สมานันท์) มีอันต้อง ถึงแก่กรรม ก็เป็น ธง แจ่มศรี ที่ รักษาการเลขาธิการพรรค แต่มาได้เป็น เลขาธิการพรรค ก็ต่อเมื่อ ปี 2525 นี่เอง
·· การหายหน้าหายตาไปของ พคท. – พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย มองในมุมหนึ่งเป็นเพราะ แพ้ทางการเมือง ต่อ แนวทางการเมืองนำการทหาร ที่รัฐบาลไทยนำมาใช้ตั้งแต่ยุคสมัย พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์, พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ตั้งแต่ประมาณ ปี 2522 – 2523 แต่มองจากอีกมุมหนึ่งแล้วเกิดจาก ความขัดแย้งภายในพรรค ที่สะท้อนมาจาก ความขัดแย้งในขบวนคอมมิวนิสต์สากล จุดระเบิดเกิดขึ้นในการประชุม สมัชชาพรรคครั้งที่ 4 เมื่อ ปี 2525 ที่ไม่สามารถตกลงกันได้ตั้งแต่ขั้นตอน วิเคราะห์สังคมไทย ว่ามีสภาพตัวจริงเป็นอย่างไรกันแน่ระหว่างบทวิเคราะห์เดิม ๆ ที่ท่องกันมาเป็น สูตรสำเร็จ ว่าสังคมไทยคือ กึ่งเมืองขึ้นกึ่งศักดินาฯ กับแนววิเคราะห์ใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นว่าสังคมไทยคือ ทุนนิยมกึ่งเมืองขึ้นฯ (ที่มี ฯ ต่อท้ายด้วยก็เพราะประโยคเต็ม ๆ ของทั้ง 2 บทวิเคราะห์คือ กึ่งเมืองขึ้นกึ่งศักดินา – ที่ปัจจัยทุนนิยมเพิ่มมากขึ้น กับ ทุนนิยมกึ่งเมืองขึ้น – ที่ศักดินาดำรงอยู่) เสียงโหวตขณะนั้นแพ้ชนะกัน ก้ำกึ่ง แต่ศูนย์กลางการนำของพรรคโอนเอนไปทาง กึ่งเมืองขึ้นกึ่งศักดินาฯ ซึ่งเป็นแนวทางการวิเคราะห์ที่ประยุกต์มาจาก จีน ที่เคยวิเคราะห์ สังคมจีนยุคก่อนการปฏิวัติ และผู้นำรุ่นแรก ๆ ของพรรคก็มาจาก พคจ. – พรรคคอมมิวนิสต์จีน เป็น ลูกจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิรัช อังคถาวร หรือ สหายธาร หรือชื่อจีนว่า จางหย่วน ที่กุมการนำในพรรคมาก่อนหน้า ปี 2525 พรรคแก้ปัญหาด้วยการให้คนกลางที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายอย่าง ธง แจ่มศรี ขึ้นมาเป็น เลขาธิการพรรค จากนั้นบทบาทของ วิรัช อังคถาวร ก็ลดลงเรื่อย ๆ เมื่อเขาเดินทางจากประเทศไทยไป รักษาอาการป่วย ที่ จีน ตั้งแต่ ปี 2526 และพำนักอยู่ยาวนานจน ถึงแก่กรรม เมื่อ ปี 2540 นี่เอง
·· สมาชิกพรรคที่มีบทบาทสนับสนุนแนวทางวิเคราะห์สังคมไทยใหม่เป็น ทุนนิยมกึ่งเมืองขึ้นฯ มาจาก ภาคอีสาน แกนนำสำคัญคือ ลุงสม – อุดม ศรีสุวรรณ กับ ลุงปรีดา – วินัย เพิ่มพูนทรัพย์ โดยมีพันธมิตรเป็น คนรุ่น 14 ตุลา ที่เป็น นายแพทย์คนหนึ่ง มีบทบาทอยู่ใน องค์กรประชาธิปไตย มาตั้งแต่ ปี 2535 จนกระทั่งปัจจุบัน
·· ปัจจุบัน ธง แจ่มศรี สามัคคีกับ กลุ่มภาคอีสาน ที่มี พลังนำทางปัญญา ในปัจจุบันอยู่ที่ ลุงปรีดา – วินัย เพิ่มพูนทรัพย์ ทำให้สามารถสร้างเอกภาพได้ในหมู่สมาชิกและผู้ปฏิบัติงาน ส่วนใหญ่ของภาคอีสาน แต่ยังไม่สามารถเจาะฐาน กทม., ภาคเหนือ ที่ยังคงยึดถือการนำเดิมของ วิรัช อังคถาวร ได้
·· เพราะแม้ วิรัช อังคถาวร จะ ออกจากประเทศไทย ไปหลายปีจนกระทั่งถึงแก่กรรมไปแล้วแต่ ภรรยา คือ ป้าพึ่ง – สมพร อังคถาวร ยังคงอยู่ในประเทศไทยและ เคลื่อนไหวไม่ขาดสาย โดยมีพันธมิตรเป็น คนรุ่น 14 ตุลาคู่หนึ่ง ที่ถือว่าเป็น ปัญญาชนที่มีความสามารถสูง ฝ่ายชายเคยเข้าไปมีบทบาทใน องค์กรอิสระ และมีสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร, พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ฝ่ายหญิงเป็น อาจารย์สถาบันการศึกษาเอกชน ช่วงปีที่ผ่านมาเกิด ข่าวลือ ในวงการภายในทำนองว่าฝ่ายชายกำลังจะก้าวขึ้นมาเป็น เลขาธิการพรรค เชื่อว่าน่าจะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ ธง แจ่มศรี ต้อง เริ่มเปิดตัว ล่าสุดก็เป็นสมาชิกและผู้ปฏิบัติงานในเครือข่ายของ ป้าพึ่ง – สมพร อังคถาวร นี่แหละที่เรียกร้องให้เปิดประชุม สมัชชาพรรคครั้งที่ 5 ขึ้นมา
·· ไม่ใช่เพียงเครือข่ายสายของ ป้าพึ่ง – สมพร อังคถาวร (เห็นการเคลื่อนไหวชัดเจนที่ ชุมพร และที่ น่าน) เท่านั้นที่เรียกร้องให้เปิดประชุม สมัชชาพรรคครั้งที่ 5 ยังมี สายอีสานบางส่วน ที่ต้องการ ความชัดเจน จาก ผู้นำรุ่นอาวุโส อีกด้วยว่าจะมีท่าทีอย่างไร
·· อันที่จริง ธง แจ่มศรี ในวัย 83 ปี ก็มีท่าทีว่าจะ หยุดการเคลื่อนไหว, ถอดหัวโขน แต่อยู่ระหว่างหาหนทางดีที่สุดใน การส่งมอบอำนาจ แต่ติดปัญหาที่พันธมิตรสำคัญที่เป็น นายแพทย์ คนนั้นโดยรวมแล้ว ไม่ได้รับการยอมรับ เล่ากันว่าลึก ๆ แล้วแม้แต่ ลุงปรีดา – วินัย เพิ่มพูนทรัพย์ ก็ ไม่ยอมรับ แต่จะด้วยปัญหาใดนั้น “เซี่ยงเส้าหลง” เป็น คนนอก ยากจะรู้ได้
·· จากการให้สัมภาษณ์ของ สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อาจารย์ประจำ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา ต่อ เนชั่นสุดสัปดาห์ ฉบับที่กำลังวางแผงอยู่นี้มีข้อมูลน่าสนใจว่าเมื่อ วันที่ 25 กรกฎาคม 2547 ใน กทม. มีการชุมนุมสมาชิกและผู้ปฏิบัติงานของ พคท. – พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ถึง กว่า 200 คน ในงาน ขึ้นบ้านใหม่ผู้อาวุโสท่านหนึ่ง ส่วนใหญ่ต้องการให้เปิดประชุม สมัชชาพรรคครั้งที่ 5 และแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงไปก็คือ พคท. – พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ในอนาคตไม่ว่าจะใน ชื่อเดิม หรือ ชื่อใหม่ น่าจะเป็น พรรคเปิด, พรรคบนดิน ไม่ใช่ พรรคปิด, พรรคใต้ดิน และมีโอกาสจะเป็น พรรคทางเลือก ได้อีกพรรคหนึ่ง
·· แต่ก่อนจะมี สมัชชาพรรคครั้งที่ 5 ขณะนี้สมาชิกและผู้ปฏิบัติงานส่วนหนึ่งใน ภาคอีสาน ก็เคลื่อนไหวในนามที่รู้จักกันว่า พรรคปลดหนี้ และเริ่มเข้าไปเป็น ฐานกำลัง ให้กับ พรรคมหาชน ที่เชื่อกันว่าจะ ชิงที่นั่งในภาคอีสาน ได้ หลายที่ เหมือนกัน
·· อันที่จริง พรรคมหาชน นี่ก็ แปลก ส่วนหัวเป็นการผสมผสานระหว่าง เอนก เหล่าธรรมทัศน์ กับ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์, วัฒนา อัศวเหม, นพดล ธรรมวัฒนะ และ ฯลฯ ที่ดูภายนอกแล้ว ชื่อเสียงไม่ดี แต่ในส่วนของ ผู้ปฏิบัติงานมวลชน กลับมีจำนวนหนึ่งที่มาจากเครือข่ายของ พคท. – พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย และแม้แต่แนวนโยบาย รัฐสวัสดิการก้าวหน้า ก็เป็นการประยุกต์แนวทาง สังคมนิยม ที่ร่วมคิดร่วมเสนอแนะโดย ปัญญาชนที่มีความสามารถสูง พันธมิตรหลักของ ป้าพึ่ง – สมพร อังคถาวร หรือแม้แต่คนที่มีภาพ เจ้าพ่อ อย่าง วัฒนา อัศวเหม คนทำงานพื้นฐานให้เขาส่วนสำคัญส่วนหนึ่งก็มาจากสมาชิกและผู้ปฏิบัติงานเก่าของ พคท. – พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย เรื่องนี้ “เซี่ยงเส้าหลง” ได้ยินมาว่าแม้แต่ นักทฤษฎีคนสำคัญในอดีต เจ้าของนาม ชาญ กรัสนัยปุระ ก็อยู่ในเครือข่ายนี้โดยทำหน้าที่ ดูแลธุรกิจ ในเขตเมือง คุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ให้
·· แท้จริงแล้ววัฒนา อัศวเหม สมัครสมานสามัคคีมานานกับ สังข์ พัธโนทัย (บิดาของ ดร.มั่น พัธโนทัย) ผู้เป็น มิตรสนิท ของ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในยุคเริ่มต้นก่อตั้งระบอบใหม่
·· ถ้ามีการเปิดประชุม สมัชชาพรรคครั้งที่ 5 ขึ้นมาก่อนจะไปถึงเรื่อง กรรมการชุดใหม่, เลขาธิการคนใหม่, ยุทธศาสตร์-ยุทธวิธีชุดใหม่ ที่น่าจับตาเป็นปฐมคือ การวิเคราะห์สังคมไทย ที่ค้างคามาแต่ ปี 2525 ที่ยังตกลงกันไม่เป็นเอกฉันท์ว่ายังคงเป็น กึ่งเมืองขึ้นกึ่งศักดินา – ที่ปัจจัยทุนนิยมเพิ่มมากขึ้น หรือพัฒนาขึ้นมาเป็น ทุนนิยมกึ่งเมืองขึ้น – ที่ศักดินาดำรงอยู่ จนถึง ปี 2547 ที่มี ทักษิโณมิค แล้วจะ ลงเอย อย่างไร
·· อาจจะมองเห็นว่า ไร้ความหมาย สำหรับการเคลื่อนไหวฟื้นตัวของ พคท. – พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย เรื่องนี้ “เซี่ยงเส้าหลง” ยอมรับว่า จริง หากพิจารณาเฉพาะ สถานการณ์ปัจจุบัน ที่ยังคงอยู่ใน กระแสสูง ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ พรรคไทยรักไทย แต่หากมอง ระยะยาว ไปถึง ยุคหลังทักษิณ-ไทยรักไทย ที่อาจจะเป็น 4 ปีข้างหน้า หรือ 2 – 3 ปีข้างหน้า หรือ ระยะยาวกว่า ไปถึง ยุควิกฤตสังคมไทย ที่อาจจะเกิดขึ้นเพราะ การเปลี่ยนแปลงบางประการในช่วง 10 ปีขึ้นไป ก็ต้องถือว่านี่เป็น ฐานกำลังที่น่าพิจารณาและ สมัชชาพรรคครั้งที่ 5 จะเป็น จุดเริ่มต้น ของบางสิ่งบางอย่าง
ป้ายกำกับ:
พรรคคอมมิวนิสต์
กำเนิดพรรคคอมมิวนิสต์จีน

การกบถและความวุ่นวายต่างๆ เกิดมากขึ้นตามเมืองต่างๆของจีน ผู้ก่อการร้ายเกิดขึ้นทั่วไป ในปักกิ่งมีการรวมกลุ่มของคนงานบ้าง แต่ยังไม่หนาแน่น ทางด้านการศึกษามีการประชุมถกเถียงกันถึงสถานการณ์ และความเป็นไปต่างๆ ทั้งของจีนและประชาคมโลก ยิ่งนานวันทุกคนก็ยิ่งคิดถึงความมั่นคงของตน ระยะนี้ปัญญาชนจีนที่กลับจากต่างประเทศก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น การรวมตัวของกลุ่มนักศึกษาก็มีมากขึ้น
จนถึงวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 1919 อันเป็นวันครบรอบปีที่ 4 ของการยอมรับข้อเรียกร้อง 21 ประการ ของญี่ปุ่น ซึ่งทุกคนถือว่าเป็นวันแห่งการสูญเสีย ในวันนั้นมีข่าวออกมาว่า ที่ประชุมพันธมิตรที่แวร์ซายส์ ได้ตกลงยกกรรมสิทธิ์เหนือซานตุง ซึ่งเป็นของจีนแต่ถูกเยอรมันยึดครองกรรมสิทธิ์ ไปให้แก่ญี่ปุ่น แทนที่จะคืนให้จีน ข่าวนี้สร้างความไม่พอใจให้แก่คนทั่วไป เพราะเชื่อว่าเป็นแผนของญี่ปุ่นที่จะยึดครองจีน โดยมีมหาอำนาจหนุนหลัง ประกอบกับมีรัฐมนตรี 3 นายของจีนเป็นผู้เห็นด้วย และเซ็นรับข้อตกลงนี้ การประท้วงจึงเกิขึ้นในปีกกิ่งทันที
เฉินตู้สิว เป็นคนหนึ่งที่สนับสนุนการประท้วงครั้งนี้ เขาเรียกร้องให้นักศึกษารวมกลุ่มต่อสู้ โดยพูดว่า
"...สิ่งที่ข้าพเจ้าต้องการจะพูด และพูดด้วยน้ำตาก็คือความหวังที่ว่า นักศึกษาที่ยังหนุ่มแน่นจะมีความสำนึกในตนเอง และพร้อมที่จะต่อสู้ ความสำนึกในตนเองหมายความว่า จะต้องตระหนักถึงพลังและความรับผิดชอบกับเคารพในความเป็นหนุ่มของท่าน ทำไมท่านต้องต่อสู้ เพราะว่าท่านจำเป็นต้องใช้สติปัญญาที่มีอยู่กำจัดคนที่กำลังร่วงโรย ทั้งร่างกายและสติปัญญาให้หมดสิ้นไป จงถือเสมือนหนึ่งว่าพวกนี้เป็นศัตรูของท่าน อย่าติดต่อหรือยอมให้คนพวกนี้มีอิทธิพลใดๆ เหนือท่านอีกต่อไป....
โอ้ คนหนุ่มของจีน ท่านเข้าใจข้าพเจ้าหรือไม่ 5 ใน 10 คน ที่ข้าพเจ้าเห็นล้วนเป็นหนุ่มแต่อายุ ส่วนความคิดและจิตใจนั้นแก่ 9 ใน 10 คน เป็นคนหนุ่มแต่ร่างกาย แต่แก่ในจิตใจ เมื่อความแก่ปรากฎแก่ร่างกาย ร่างกายก็ร่วงโรย เมื่อความแก่ปรากฎแก่สังคม สังคมนั้นก็เสื่อมโทรม การรักษาจะกระทำได้ก็โดยการอาศัยคนที่ยังหนุ่ม และความกล้าหาญเท่านั้น ถ้าเราต้องการอยู่รอดต่อไป เราต้องมีแต่คนหนุ่ม ถ้าเราต้องการกำจัดคอรัปชั้น เราต้องมีคนหนุ่ม และนี่เองคือความหวังของสังคม.."
ขบวนการ 2 พฤษภา ได้เริ่มขึ้นแล้ว นักศึกษา 5000 คนจากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ได้ร่วมกันตั้งคณะกรรมการ เรียกร้องให้นักศึกษาในที่ต่างๆ มาร่วมมือกัน ในที่สุดก็มีสภานักศึกษาสำหรับวางแผนและปฎิบัติงานให้เป็นไปตามนโยบาย จุดหมายสำคัญคือโค่นรัฐบาล ซึ่งมีรัฐมนตรีที่นิยมญี่ปุ่นอยู่
นักศึกษาประมาณ 10000 คน ได้ไปชุมนุมกันที่ "ประตูสวรรค์สันติ" หน้าพระราชวังฤดูร้อน และตกลงเดินขบวนไปขอความช่วยเหลือจากทูตมหาอำนาจ ประเทศแรกที่นักศึกษาเดินไปหาคืออเมริกา แต่ถูกปฎิเสธ โดยอ้างว่าวันอาทิตย์ไม่ควรมาปรึกษากิจการงาน ความหวังในสันติวิธีดูจะไม่เป็นผล ขบวนนักศึกษาจึงเดินไปบ้านรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ด้วยรู้ว่า 3 รัฐมนตรีที่นิยมญี่ปุ่นหลบซ่อนอยู่ โดยมีกำลังทหารตำรวจสกัดกั้นอยู่หน้าประตู นักศึกษาจึงระดมขว้างปาด้วยก้อนหิน เมื่อตำรวจใช้ปืนยิง นักศึกษาจึงล่าถอยไปที่มหาวิทยาลัย ปรากฎว่ามีผู้ถูกจับไป 32 คน นักศึกษาได้เตรียมเดินขบวนบุกโรงพักตำรวจอีกถ้าไม่ปล่อยพวกที่ถูกจับไป ในที่สุดตำรวจก็ยอมปล่อย และนี่เองที่เป็นอาวุธสำคัญของนักศึกษา สำหรับใช้ต่อรองกับรัฐบาล
ต่อมาสภานักศึกษาได้ประกาศหยุดงาน ร้านค้าในปีกกิ่งปิดหมด คนงานรถไฟก็หยุดทำงาน และต่อมาคนงานในโรงงานต่างๆในปักกิ่ง ก็เริ่มหยุดงานบ้าง แล้วขยายไปเทียนสิน เซี่ยงไฮ้ นานกิง และฮันเค้า ในที่สุดรัฐบาลซึ่งประกาศจะใช้กำลังทหารเข้าจัดการกับนักศึกษาก็ยอมรับข้อเสนอ แต่ปรากฎว่ารัฐนมตรีทั้ง 3 คนได้หลบหนีไปญี่ปุ่นเสียก่อน
ขบวนการ 4 พฤษภา เป็นจุดเริ่มต้นของการร่วมมือระหว่างปัญญาชนกับกรรมกร และแสดงให้เห็นถึงพลังของการรวมตัวในความเชื่อร่วมกัน การปฎิบัติงานอย่างมีแบบแผนเป็นความสำเร็จอันดับแรกของเฉินตู้สิว ก่อนที่เขาจะก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ ร่วมกับลีต้าเจา
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ความคิดและความเชื่อเดิมของเฉินก็เริ่มสั่นคลอน ประชาธิปไตยและวิทยาศาสตร์ดูจะห่างไกลความจริง เมื่อดิวอี้มาบรรยายเรื่อง "ปรัชญาสังคมและการเมือง" และแสดงโครงสร้างของปรัชญาประชาธิปไตย ดิวอี้ดูจะเข้าใจถึงปัญหาและความต้องการของจีน เขาไม่พยายามยัดเยียดความเป็นตะวันตกให้ แต่กลับชี้ให้เห็นถึงเนื้อหาแท้จริงของตะวันตก ในจุดนี้เองเฉินจึงมองเห็นความแตกต่างของทฤษฎีประชาธิปไตยกับสภาพความเป็นจริงในสังคม บทความของเขาเรื่อง "พื้นฐานความเข้าใจประชาธิปไตย"
ที่ตีพิมพ์ในวารสารคนหนุ่มรุ่นใหม่ เดือนธันวาคม 1919 นั้น เป็นการยอมรับข้อคิดของดิวอี้โดยสิ้นเชิง เขากล่าวว่า ความล้มเหลวของประชาธิปไตยจีนอยู่ที่การเข้าใจผิด ว่าการบังคับใช้รัฐธรรมนูญจากเบื้องบน จะมีผลให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยได้ แต่กฎหมายไม่มีพลังที่จะสร้างความเป็นจริงได้ "...ความจริงมีพลังที่จะสร้างกฎหมายได้ แต่กฎหมายไม่มีพลังที่จะสร้างความเป็นจริงได้..." ประชาธิปไตยต้องเกิดขึ้นจากพื้นฐานของสังคมนั้นเอง และจะต้องเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของคนทั่วไป ทุกหมู่บ้านทุกเมือง การถกเถียงถึงระบบรัฐสภา คณะรัฐมนตรี หรือแม้กระทั่งการรวมอำนาจหรือกระจายอำนาจ ล้วนเป็นสิ่งหลอกลวงทั้งสิ้น ตราบเท่าที่ประชาชนยังไม่มีวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบประชาธิปไตย อย่าไปหวังอะไรจากพรรคการเมือง ซึ่งไม่มีแม้แต่ความเข้าใจในอธิปไตยของปวงชน หรือกระทั่งจากนายพล ซึ่งใช้ระบบคณาธิปไตยภายใต้ชื่อสาธารณรัฐ
เฉินตู้สิว เริ่มจับปัญหาทางเศรษฐกิจ เขาเริ่มให้ความสนใจความคิดของเลนินมากขึ้น "ทฤษฎีจักรวรรดินิยม" ของเลนิน อธิบายถึงปัญหาของประเทศด้อยพัฒนา การขูดรีดของประเทศนายทุนตะวันตก และนี่เองที่อธิบายภาพการประชุมที่แวร์ซายส์ให้เฉินเห็นว่าเป็นการร่วมมือกันระหว่างญี่ปุ่นกับตะวันตก ขูดรีดผลประโยชน์จากจีน เฉินตู้สิวจับปัญหาได้และมองหาทางออก ดิวอี้เคยพูดว่าการแก้ปัญห่อยู่ที่ "การค้นหาวิธีที่มั่นคงเพื่อเผชิญกับปัญหาที่ใหญ่หลวง โดยคำนึงถึงกาลเทศะ" เลนินเสนอว่า มีแต่การปฎิวัติเท่านั้น และต้องมีกลุ่มแนวหน้าภายใต้ระบบองค์การที่มีประสิทธิภาพ แล้วพร้อมกันเดินไปหามวลชน
ปี ค.ศ.1920 เฉินตู้สิวประกาศเป็นมาร์กซิสต์-เลนินซิสต์ จากนั้นเขากับลีต้าเจาได้ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน การประชุมพรรคครั้งแรก มีขึ้นเมื่อปลายเดือนมิถุนายน ค.ศ.1921 โดยมีคณะกรรมการกลางพรรคเพียง 12 คน และหนึ่งในนั้นคือ เมาเซตุง
เมาเซตุง
ป้ายกำกับ:
พรรคคอมมิวนิสต์
กำเนิดพรรคคอมมิวนิสต์จีน

เฉินตู้สิว
ผู้ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนคือ เฉินตู้สิว คณบดีคณะอักษรศาสตร์กับลีต้าเจา อาจารย์ประวัติศาสตร์ ทั้งคู่สอนอยู่ในมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ระยะนั้นแม้จะมีคนสนใจปรัชญาตะวันตกกันมากก็ตาม แต่ที่น่าแปลกใจคือแนวคิดของ มาร์กซ ไม่เคยมีใครนำมาพูดถึงเลย ทุกคนเชื่อมั่นในความคิดแบบประชาธิปไตยตะวันตกมาก ว่าจะเป็นทางรอดของจีน เฉินตู้สิวก็เช่นกัน เขามีความศรัทธาในปรัชญาตะวันตกเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความคิดที่เกี่ยวกับประชาธิปไตย และความเจริญก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์ตะวันตก
ในปี ค.ศ. 1915 เฉินได้ออกวารสาร คนหนุ่มรุ่นใหม่ เพื่อกระตุ้นนักศึกษาให้ตระหนักถึงปัญหาของประเทศ และทางรอดของประเทศอยู่ที่การเปลี่ยนแปลงให้ทันโลก บทบรรณาธิการฉบับแรกกล่าวว่า "ภาระกิจของคนรุ่นใหม่ คือการต่อสู้เพื่อล้มล้างความเชื่อและประเพณีเก่าๆ รวมทั้งลัทธิขงจื๊อ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นอุปสรรคตามความคิดแบบใหม่และความก้าวหน้า จะต้องเลิกระบบการศึกษาและการเรียนแบบเก่า แล้วสร้างสังคมใหม่ บนพื้นฐานของประชาธิปไตยและวิทยาศาสตร์"
ลีต้าเจา

ความคิดของเฉิน ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งความคิดแบบประชาธิปไตย "เสรีนิยมแบบแมนเชสเตอร์" เขามองปัญหาความล้าหลังและความเสื่อมโทรมของจีน โดยเปรียบเทียบกับตะวันตก เขาเห็นว่าสาเหตุอยู่ที่ระบบการปกครองของจีนไม่เป็นประชาธิปไตยแบบฝรั่ง รวมทั้งขาดการค้นคว้าทางด้านวิทยาศาสตร์ ในยุคแรกของคนหนุ่มรุ่นใหม่ เขาจึงนำความคิดใหม่ๆ มาเสนอตลอดเวลา อาทิ บทแปลของ อดัม สมิท นอทเช่ มิลล์ ตอลสลอย ฮักซเลย์ ดาร์วิน และสเปนเซอร์ แต่ขณะนั้นยังไม่มีใครเขียนถึงมาร์กซ

ชูหยวน
ส่วนลีต้าเจานั้น เป็นนักประวัติศาสตร์และนักอภิปรัชญา ลีได้อิทธิพลทางปรัชญามาจากเอมเมอร์สันและเฮเกล มีผู้กล่าวว่าลีไม่ได้รับอิทธิพลจากเฮเกล แต่เป็นแบร์กซองมากกว่า แต่ลียังคงศรัทธาเชื่อมั่นคำสอนเดิมของจีนอยู่ ความคิดของเขาจึงปรากฎออกมาในรูปของการผสมผสาน ระหว่างตะวันตกกับตะวันออก ระหว่างศาสนาพุทธกับความคิดของ ชูหยวน เอมเมอร์สันและเฮเกล ความคิดดังกล่าวนี้ เขาได้ถ่ายทอดลงในบทความสองบทชื่อ คนหนุ่ม และปัจจุบัน
ในระยะที่ลีเชื่อในการเปลี่ยนแปลงแบบปฎิรูป เขากล่าวว่า ปัจจุบันเป็นอนาคตของอดีต และเป็นพื้นฐานของความก้าวหน้าในอนาคต การเปลี่ยนแปลงทุกขั้นตอนเป็นไปตามกฎของโลก เราทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของจิตโลก ที่จะเปลี่ยนแปลงไปสู่ความสมบรูณ์ในอนาคต บทความ คนหนุ่ม ของเขาได้เน้นให้คนหนุ่มตระหนักถึงความสำคัญของความเป็นหนุ่ม ที่จะเป็นพื้นฐานสำหรับสร้างอนาคตและต้องลงมือทำ
จากความผันผวนทางการเมืองของจีน ตั้งแต่ราชวงศ์แมนจูจนถึงสมัยสาธารณรัฐ การแพ้สงครามต่อประเทศตะวันตกและญี่ปุ่น จนถูกปฎิบัติราวกับเป็นเมืองขึ้น มีผลกระตุ้นให้ลีศึกษาการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เขาสรุปว่า ความเสื่อมโทรมทั้งหลายนี้ เป็นผลมาจากความเสื่อมภายในประเทศจีนเอง อารยธรรมจีนอันรุ่งเรืองได้ตายเสียแล้ว เหลือแต่ซากความยิ่งใหญ่ในอดีต ที่กับเป็นอุปสรรค์ต่อความก้าวหน้าของจีน เป็นที่น่าสังเกตว่า ทั้งลีและเฉิน เมื่อศึกษาถึงความล้มเหลวของจีนแล้ว แทนที่จะเห็นว่าเป็นผลการกระทำของคนภายนอกกลับโทษตนเอง ในข้อที่ไม่เจริญทัดเทียบคนอื่น ในขณะเดียวกันก็เริ่มมองไปที่ตะวันตก ว่าเป็นทางรอดของจีนในอนาคต
หลังจากสถาปนาจีนเป็นสาธารณรัฐได้ไม่นาน ความหวังของเฉินและลี ที่จะได้เห็นจีนก้าวหน้าไปเป็นประชาธิปไตย และเจริญทัดเทียบนานาประเทศก็พังทลาย เมื่อซุนยัดเซน ไม่สามารถรวมประเทศให้เป็นหนึ่งเดียวได้ หลังจาก หยวนซีไขตายก็เกิดแย่งอำนาจกัน ในเวลาเดียวกันประเทศตะวันตกก็ยังคงยื้อแย่งผลประโยชน์ในเมืองจีน และจุดชนวนสำคัญคือ ข้อเรียกร้องของญี่ปุ่น 21 ประการ
ก่อนหน้านี้เมื่อจีนร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 เฉินมีความหวังว่าฝ่ายพันธมิตร คงจะช่วยป้องกันผลประโยชน์ของจีน แต่เมื่อประชุมกันที่แวร์ซายส์ เหตุการณ์กับตรงข้าม ที่ประชุมกลับมีมติให้ยกกกรมสิทธิ์เหนือซานตุงให้แก่ญี่ปุ่น ซึ่งประเด็นนี้เป็นชนวนสำคัญ ที่เปลี่ยนแปลงแนวคิดแบบนิยมตะวันตกไปสู่แนวตรงข้าม
ในช่วงเวลานี้เอง พรรคบอลเชวิคได้รับชัยชนะในการปฎิวัติรัสเซีย ทฤษฎีการปฎิวัติรวมทั้งแนวคิดเกี่ยวกับประเทศด้อยพัฒนาเริ่มแพร่หลายออกไป ไม่มีใครคิดมาก่อนว่า ประเทศด้อยการพัฒนาทางอุตสาหกรรมจะสามารถปฎิวัติได้สำเร็จ โดยเฉพาะทฤษฎีของมาร์กซ ซึ่งทำนายถึงการปฎิวัติของชนชั้นกรรมาชีพในประเทศอุตสาหกรรม ก็ไม่ได้คิดถึงพลังของชาวนา เพราะเชื่อว่าเป็นไปได้ยากที่จะนำคนเหล่านี้ไปปฎิวัติ ลีต้าเจาเป็นคนแรกที่ได้รับความคิดของเลนิน เขาเริ่มให้ความสนใจ ประกอบกับมีพื้นฐานทางประวัติศาสตร์และปรัชญาเฮเกลอยู่แล้ว เขาจึงสามารถเข้าใจลัทธิมาร์ก-เลนิน ได้รวดเร็วกว่าคนอื่น เขาเขียนบทความสดุดีการปฎิวัติในรัสเซียเรื่อง "ชัยชนะของบอลเชวิค" โดยใช้ปรัชญาเฮเกลมาอธิบายว่า ชัยชนะของบอลเชวิคเป็นชัยชนะของทุกๆคน และเป็นขั้นหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงไปสู่จิตโลก แม้แต่ซุนยัดเซนเองก็ยังยอมรับ และยกย่องในความคิดความสามารถของเลนิน
ใน ค.ศ. 1918 ลีต้าเจาได้จัดตั้งสมาคมเพื่อการศึกษาลัทธิมาร์กซ์ ในมหาวิทยาลัยปักกิ่ง สมาชิกส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาของเขาทั้งสิ้น ยกเว้นคนเดียวคือ เมาเซตุง ซึ่งขณะนั้นเป็นเพียงผู้ช่วยบรรณารักษ์ห้องสมุด ดูแลหนังสือพิมพ์และเอกสารอื่นๆ สมาชิกเริ่มแรกมีเพียงไม่กี่คน ซึ่งต่อมาก็ได้เป็นตัวจักรสำคัญของพรรคคอมมิวนิสต์จีนทั้งหมด การศึกษาลัทธิมาร์กซ์ของกลุ่มนี้เป็นไปอย่างเงียบๆ ไม่มีใครให้ความสนใจมาก วิธีการศึกษาเป็นไปในรูปแบบของการวิจารณ์ลัทธิเป็นส่วนใหญ่ ดูราวกับว่าทุกคนต่างต้องการโจมตีมาร์กซ์มากกว่าที่จะยอมรับ และคนพวกนี้เองที่เป็นต้นกำเนินคอมมิวนิสต์จีน
แท้ที่จริงแล้ว การโต้แย้งนี้เองกลับทำให้ความเข้าใจในลัทธิมาร์กซ์มากขึ้นในเวลาต่อมา ซึ่งแตกต่างไปจากสมัยแรกรู้จักปรัชญาตะวันตกที่ยอมรับโดยไม่ข้องใจ การดัดแปลงให้เข้ากับสถานการณ์ในจีน จึงไม่มีใครนึกถึง และเป็นสาเหตุสำคัญอันหนึ่งของความล้มเหลวในทางการเมือง
ซุนยัดเซน
ป้ายกำกับ:
พรรคคอมมิวนิสต์
วันพุธที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2553
ความสุขของ พระมหากษัตริย์
ความสุขของ
พระมหากษัตริย์
หนึ่งปีที่ผ่านมา......
เราใส่ เสื้อเหลือง
เราใส่ สาย รัดข้อมือสีเหลือง
คนนับแสน ไปนั่งรอเป็นชั่วโมงๆหน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม เพื่อจะได้เห็นพระพักตร์ของพระ บาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพียงไม่กี่ นาที
วันนั้น ในขณะที่ทั้งโลกเริ่มเชื่อศรัทธาในระบบการปกครองโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เราได้แสดงให้โลกได้เห็นว่ามีประเทศเล็กๆ ประเทศหนึ่งที่คนทั้งชาติยังซื่อ สัตย์ จงรักภักดีต่อราชวงศ์จักรีและพระมหากษัตริย์อันทรงเป็นที่รักยิ่งของคน ไทย
.....สิบสองปีที่ผ่านมา......
พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวรหนักด้วยโรคหัวใจเพราะทรงงานหนักเกิน ไป
ในขณะ เดียวกันสมเด็จพระราชชนนีก็ทรงพระประชวรหนัก อยู่ ณ โรงพยาบาลศิริราชเช่น กัน
เรายังจำรูปในหนังสือพิมพ์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยม พระราชชนนีไม่กี่วันหลังจากการผ่าตัดใหญ่ถวายพระ หัตถ์ข้างหนึ่งกุมอยู่ที่พระ อุระ และในพระหัตถ์อีกข้างหนึ่งทรงถือม้วนแผนที่ กรุงเทพฯเพราะน้ำกำลังท่วม กรุงอยู่
ยังจำกันได้ ไหม?
..... 34 ปีที่ผ่านมา.....
วัน ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2516 เป็นครั้งแรกในรัชกาลที่เกิด วิกฤติด้านการเมืองรุนแรงที่สุด
วันนั้นนิสิตนักศึกษาและประชาชนนับหมื่นนับแสนเดินขบวน ประท้วงรัฐบาล เหตุการณ์ร้ายแรงยิ่งขึ้น ตำรวจทหารยิงประชาชน ในขณะที่นิสิตนัก ศึกษาก็เผาสถานที่ราชการเกิดกลียุคทุกหย่อมหญ้า คนไทยฆ่าคนไทยด้วยกัน เอง
คืนนั้น สถานีโทรทัศน์ทุกช่องถ่ายทอดสดจากพระราชวังสวน จิตรลดาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัวทรงมีพระราชดำรัสกันคนไทยทุกคน ว่า “คนไทยจะฆ่าคนไทยด้วยกันไม่ได้ ทุกอย่างต้องสงบโดยฉับ พลัน”
และ ทุกอย่างก็สงบโดยฉับพลัน
หลังจากนั้นไม่นานมีฝรั่งคนหนึ่ง มาถามผม ว่า “เป็นไปได้อย่างไร ที่คนๆ เดียวจะมีอำนาจเหนือคนทั้ง ประเทศได้อย่างนั้น?”
ผมไม่ได้ ตอบ แต่ตอนนั้นใจผมคิดถึงประโยค ที่ มรว. คึกฤทธิ์ ปราโมชฯ ได้ให้ สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ BBC ว่า พระองค์ทรงเป็น 'SOUL OF THE NATION' หรือ “จิตวิญญาณของคนไทยทั้งชาติ”
ยังจำกัน ได้ ไหม?
แล้ววันนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่?
เราสร้างค่านิยมผิดๆ ว่าคนที่ประสบความสำเร็จคือคนที่มีเงินมากที่ สุด
เราโกง ทุก ครั้งที่มีโอกาส
เราเรียก ร้องประชาธิปไตยโดยคิดถึงแต่ “ สิทธิ” แต่ลืมคำว่า “ หน้าที่”
เรากำลัง ฆ่ากันเองทุกวันในภาคใต้
เรา สร้าง “กฎหมู่” ให้เหนือ “กฎหมาย”
เราเดิน ขบวนประท้วงในทุกอย่างที่เราไม่เห็นด้วย
เราก้าว ร้าวต่อกัน เราแตกแยกกัน
และทั้งโลกกำลัง จับตามองเราอยู่
เราเคยหยุดคิดกันบ้างไหมว่า
พระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวของเราจะทรงเสียพระทัย เพียงใด?
80 ชันษา ของ พระองค์ท่าน หากเปรียบ กับคนธรรมดาก็สมควรที่จะได้พักเต็มที่ ได้รับการดูแล และ ระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่สมควรที่จะตรากตรำทำงานหนัก หรือกระทบกระเทือนใจ แต่ อย่างใด
แต่กลับ เป็นว่า ในปีที่ครบ 80 ชันษา ของ พระองค์ท่านยังต้องทรงงานอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆ ที่ทรงต้องอยู่ภายใต้การถวาย การ ดูแลของคณะแพทย์
พระองค์ต้องรับ ทุกข์ของคนไทยทั้งชาติ
ความสุข ของพระมหากษัตริย์พระองค์ นี้ ไม่ใช่จะประทับอยู่ในพระราชวังใหญ่โตสวยงาม แห่ ล้อมด้วยข้าราช บริพาร
หากแต่ ความสุขของพระมหากษัตริย์พระองค์นี้คือ เมื่อ ประชาชนของพระองค์ท่านรักสามัคคี กัน รู้จักความพอเพียง และมีสติ- เพียงเท่านี้เอง
แล้ววันนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่?
หรือนี่คือการ แสดงความกตเวทีต่อพระมหากษัตริย์ของ เรา?
พระมหากษัตริย์
หนึ่งปีที่ผ่านมา......
เราใส่ เสื้อเหลือง
เราใส่ สาย รัดข้อมือสีเหลือง
คนนับแสน ไปนั่งรอเป็นชั่วโมงๆหน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม เพื่อจะได้เห็นพระพักตร์ของพระ บาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพียงไม่กี่ นาที
วันนั้น ในขณะที่ทั้งโลกเริ่มเชื่อศรัทธาในระบบการปกครองโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เราได้แสดงให้โลกได้เห็นว่ามีประเทศเล็กๆ ประเทศหนึ่งที่คนทั้งชาติยังซื่อ สัตย์ จงรักภักดีต่อราชวงศ์จักรีและพระมหากษัตริย์อันทรงเป็นที่รักยิ่งของคน ไทย
.....สิบสองปีที่ผ่านมา......
พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวรหนักด้วยโรคหัวใจเพราะทรงงานหนักเกิน ไป
ในขณะ เดียวกันสมเด็จพระราชชนนีก็ทรงพระประชวรหนัก อยู่ ณ โรงพยาบาลศิริราชเช่น กัน
เรายังจำรูปในหนังสือพิมพ์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยม พระราชชนนีไม่กี่วันหลังจากการผ่าตัดใหญ่ถวายพระ หัตถ์ข้างหนึ่งกุมอยู่ที่พระ อุระ และในพระหัตถ์อีกข้างหนึ่งทรงถือม้วนแผนที่ กรุงเทพฯเพราะน้ำกำลังท่วม กรุงอยู่
ยังจำกันได้ ไหม?
..... 34 ปีที่ผ่านมา.....
วัน ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2516 เป็นครั้งแรกในรัชกาลที่เกิด วิกฤติด้านการเมืองรุนแรงที่สุด
วันนั้นนิสิตนักศึกษาและประชาชนนับหมื่นนับแสนเดินขบวน ประท้วงรัฐบาล เหตุการณ์ร้ายแรงยิ่งขึ้น ตำรวจทหารยิงประชาชน ในขณะที่นิสิตนัก ศึกษาก็เผาสถานที่ราชการเกิดกลียุคทุกหย่อมหญ้า คนไทยฆ่าคนไทยด้วยกัน เอง
คืนนั้น สถานีโทรทัศน์ทุกช่องถ่ายทอดสดจากพระราชวังสวน จิตรลดาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัวทรงมีพระราชดำรัสกันคนไทยทุกคน ว่า “คนไทยจะฆ่าคนไทยด้วยกันไม่ได้ ทุกอย่างต้องสงบโดยฉับ พลัน”
และ ทุกอย่างก็สงบโดยฉับพลัน
หลังจากนั้นไม่นานมีฝรั่งคนหนึ่ง มาถามผม ว่า “เป็นไปได้อย่างไร ที่คนๆ เดียวจะมีอำนาจเหนือคนทั้ง ประเทศได้อย่างนั้น?”
ผมไม่ได้ ตอบ แต่ตอนนั้นใจผมคิดถึงประโยค ที่ มรว. คึกฤทธิ์ ปราโมชฯ ได้ให้ สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ BBC ว่า พระองค์ทรงเป็น 'SOUL OF THE NATION' หรือ “จิตวิญญาณของคนไทยทั้งชาติ”
ยังจำกัน ได้ ไหม?
แล้ววันนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่?
เราสร้างค่านิยมผิดๆ ว่าคนที่ประสบความสำเร็จคือคนที่มีเงินมากที่ สุด
เราโกง ทุก ครั้งที่มีโอกาส
เราเรียก ร้องประชาธิปไตยโดยคิดถึงแต่ “ สิทธิ” แต่ลืมคำว่า “ หน้าที่”
เรากำลัง ฆ่ากันเองทุกวันในภาคใต้
เรา สร้าง “กฎหมู่” ให้เหนือ “กฎหมาย”
เราเดิน ขบวนประท้วงในทุกอย่างที่เราไม่เห็นด้วย
เราก้าว ร้าวต่อกัน เราแตกแยกกัน
และทั้งโลกกำลัง จับตามองเราอยู่
เราเคยหยุดคิดกันบ้างไหมว่า
พระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวของเราจะทรงเสียพระทัย เพียงใด?
80 ชันษา ของ พระองค์ท่าน หากเปรียบ กับคนธรรมดาก็สมควรที่จะได้พักเต็มที่ ได้รับการดูแล และ ระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่สมควรที่จะตรากตรำทำงานหนัก หรือกระทบกระเทือนใจ แต่ อย่างใด
แต่กลับ เป็นว่า ในปีที่ครบ 80 ชันษา ของ พระองค์ท่านยังต้องทรงงานอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆ ที่ทรงต้องอยู่ภายใต้การถวาย การ ดูแลของคณะแพทย์
พระองค์ต้องรับ ทุกข์ของคนไทยทั้งชาติ
ความสุข ของพระมหากษัตริย์พระองค์ นี้ ไม่ใช่จะประทับอยู่ในพระราชวังใหญ่โตสวยงาม แห่ ล้อมด้วยข้าราช บริพาร
หากแต่ ความสุขของพระมหากษัตริย์พระองค์นี้คือ เมื่อ ประชาชนของพระองค์ท่านรักสามัคคี กัน รู้จักความพอเพียง และมีสติ- เพียงเท่านี้เอง
แล้ววันนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่?
หรือนี่คือการ แสดงความกตเวทีต่อพระมหากษัตริย์ของ เรา?
ป้ายกำกับ:
ราชวงศ์จักรี
ได้จากเมล์นานแล้ว ไม่รู้ว่าเคยอ่านกันรึยัง
Subject: ขอให้ในหลวงช่วยด้วย
Date: Sat, 24 Dec 2005 11:32:37 +0700
>> >>บทความนี้ ค่อนข้างดุดันพอสมควร
>> >>อ่านแล้วก็ใช้วิจารณญาณของตนเองตัดสินละกันนะ
>> >>ว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ แต่ส่วนตัวแล้ว
>> >>หลายๆเรื่องกล่าวถึงก็คิดว่าเป็นเรื่อง
>> >ที่น่าเชื่อถือได้
>> >>ทักษิณ ชินวัตร กราบตักสุจินดา คราประยูร
>> >>ผู้มีพระคุณทำให้ไอ้ตำรวจกระจอกได้เกิดในวงการธุรกิจไทย
>> >>เบื้องหลังทรราชย์ที่เป็นอดีตทรราชย์
>> >>
>> >>เขียน : ธุลีพระบาท
>>
>>ทุกวันเกิดและวันพิเศษทักษิณจะต้องนำกระเช้าคลานเข้าไปกราบ
>> >>พลเอกสุจินดา คราประยูร
>> >>ในฐานะผู้ใหญ่คนสำคัญที่สนับสนุนปฏิบัติการปั้นทรราชย์จนมีตัวตนอย่างที่ได้
>> > เห็นทุกวันนี้และนี่คือคำเฉลยว่าคนที่
>> >>คอยกำกับดูแลอำนวยความสะดวกในเส้นทางการเมืองตลอดจนเส้นทางก้าวสู่อำนาจอย่าง
>> >เป็นขั้นตอน
>> >>และปราศจากการการต่อต้านโดยกองทัพ
>>และอดีต จปร.5และจปร.7 ได้ อย่างไร
>> >>เมื่อเราเรียกพลเอกสุจินดา คราประยูร
>> >>ว่าอดีตทรราชย์
>> >> เราต้องต่อท้ายว่าที่ยังไม่สิ้นพิษสง เพราะ
>> >>เบื้องลึกที่น้อยคงจะทราบถึงความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ
>> >>ทักษิณ ชินวัตร
>> >>ในฐานะตัวตายตัวแทน
>> >>จะไปไกลเกินกว่าแผนการปั้นทรราชย์ธรรมดา
>>
>> เบื้องลึกสุดลับที่ต้องถึงเวลาพูด
>> >>กันที่นี่ ให้รับรู้กัน ก็คือ
>> >>แผนการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์และกองทัพไทย
>> >> ของทักษิณ ชินวัตร ที่ทำให้ระบบต่างๆง่อยเปลี้ย
>> >>ทั้งการเมืองการทหาร เศรษฐกิจ ขายชาติ ทุกรูปแบบ
>> >>เพียงเพื่อเป้าประสงค์เดียว ตามที่ทักษิณ ชินวัตร
>> >>ได้ประกาศต่อหน้าหลุมศพบรรพบุรุษที่เชียงใหม่ว่า
>> >> "หากทำการใหญ่ขึ้นเป็น
>>ประธานาธิบดีของประเทศไทย
>> >>ล้มล้างราชวงศ์จักรีให้สิ้นไปไม่ได้
>> >>จะกลับมา
>> >> ฆ่าตัวตายที่หน้าหลุมศพบรรพชน"
>> >>
>> >> ทักษิณ ชินวัตร
>> >> ทรราชย์ผู้ยึดมั่นถือมั่นต่อคำทำนาย
>> >> เรื่องการที่ไม่มีรัชกาลที่ 10 ในแผ่นดินไทย เป็น
>>
>> เครื่องนำทางว่า
>> >>ตนเองจะได้เป็นใหญ่แต่เพียงผู้เดียวในแผ่นดินนี้
>> >>ได้ทำทุกทางแม้แต่การขายชาติ
>> >>และท้ายสถาบันพระมหากษัตริย์
>> >> กระทำตนเองเยี่ยงยิ่งกว่ากบฏทรราช
>> >> ย์กว่าทุกยุคที่ผ่านมา
>> >>การกระทำทั้งหลายคือข้อพิสูจน์ที่ไม่มีเวลาไปหวนคิดถึงว่าคนอย่างทักษิณ
>> >> จะทำได้หรือ เพราะทุกท่านได้เห็นกับตาตนเองมาแล้ว
>> >>ทักษิณ
>>ตระบัดสัตย์กับประชาชนของตนเอง
>> >>
>> >> และตระบัดสัตย์ต่อเบื้องพระพักตร์ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
>> >>และโกหกหลอกลวงอยู่เรื่อยมา
>> >>ลูกแกะตนนี้ไม่ได้หลงทาง
>> >> แต่ลูกแกะตนนี้มันคือหมาป่าที่ต้องการฆ่าลูกแกะทั้งฝูง
>> >>และยึดประเทศนี้เพื่อขึ้น
>>
>> เป็นใหญ่
>> >>เหนือเหล่าหมาป่าของโลก
>> >>ท่านที่ได้อ่านจงพิจารณาให้ดีเถอะ
>> >>หนทางเลือกของท่านมีไม่มากนัก
>> >> 1.
>> >>หากท่านยอมรับนับถือทรราชย์เป็นเจ้าชีวิตท่านก็คือผู้ยอมตัวเป็นทาสและใน
>> >จิตวิญญาณของท่านไม่ ได้เหลือไว้ซึ่งความจงรักภักดีต่อ
>> >พ่อของแผ่นดินแม้แต่
>> >น้อย
>> >>2.
>>
>> >>หากท่านนิ่งเฉยกับทุกสิ่งไม่รับรู้และยังคงอยู่กับความเพ้อฝันไปวันๆว่าจะมี
>> >อนาคตที่ดีกว่ารอคอย
>> >>ท่านก็จะต้องตายอย่างน่าสมเพชในที่สุด เมื่อทรราชย์ได้แผ่ขยายอำนาจสร้างความ
>> >ตายมาถึงท่านสุดแต่ จะช้าเร็วแค่ไหน
>> >> 3.
>> >>หากท่านเลือกที่จะสู้ไม่ใช่แค่เพียงคำพูดท่านจะต้องแสดงตัวออกมาไม่ต้องไม่
>> >กลัวมันอย่างมากก็แค่ตาย
แต่ถ้าต้องอยู่อย่างหมา
>>ก็ไม่รู้จะอยู่ไปทำไป
Date: Sat, 24 Dec 2005 11:32:37 +0700
>> >>บทความนี้ ค่อนข้างดุดันพอสมควร
>> >>อ่านแล้วก็ใช้วิจารณญาณของตนเองตัดสินละกันนะ
>> >>ว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ แต่ส่วนตัวแล้ว
>> >>หลายๆเรื่องกล่าวถึงก็คิดว่าเป็นเรื่อง
>> >ที่น่าเชื่อถือได้
>> >>ทักษิณ ชินวัตร กราบตักสุจินดา คราประยูร
>> >>ผู้มีพระคุณทำให้ไอ้ตำรวจกระจอกได้เกิดในวงการธุรกิจไทย
>> >>เบื้องหลังทรราชย์ที่เป็นอดีตทรราชย์
>> >>
>> >>เขียน : ธุลีพระบาท
>>
>>ทุกวันเกิดและวันพิเศษทักษิณจะต้องนำกระเช้าคลานเข้าไปกราบ
>> >>พลเอกสุจินดา คราประยูร
>> >>ในฐานะผู้ใหญ่คนสำคัญที่สนับสนุนปฏิบัติการปั้นทรราชย์จนมีตัวตนอย่างที่ได้
>> > เห็นทุกวันนี้และนี่คือคำเฉลยว่าคนที่
>> >>คอยกำกับดูแลอำนวยความสะดวกในเส้นทางการเมืองตลอดจนเส้นทางก้าวสู่อำนาจอย่าง
>> >เป็นขั้นตอน
>> >>และปราศจากการการต่อต้านโดยกองทัพ
>>และอดีต จปร.5และจปร.7 ได้ อย่างไร
>> >>เมื่อเราเรียกพลเอกสุจินดา คราประยูร
>> >>ว่าอดีตทรราชย์
>> >> เราต้องต่อท้ายว่าที่ยังไม่สิ้นพิษสง เพราะ
>> >>เบื้องลึกที่น้อยคงจะทราบถึงความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ
>> >>ทักษิณ ชินวัตร
>> >>ในฐานะตัวตายตัวแทน
>> >>จะไปไกลเกินกว่าแผนการปั้นทรราชย์ธรรมดา
>>
>> เบื้องลึกสุดลับที่ต้องถึงเวลาพูด
>> >>กันที่นี่ ให้รับรู้กัน ก็คือ
>> >>แผนการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์และกองทัพไทย
>> >> ของทักษิณ ชินวัตร ที่ทำให้ระบบต่างๆง่อยเปลี้ย
>> >>ทั้งการเมืองการทหาร เศรษฐกิจ ขายชาติ ทุกรูปแบบ
>> >>เพียงเพื่อเป้าประสงค์เดียว ตามที่ทักษิณ ชินวัตร
>> >>ได้ประกาศต่อหน้าหลุมศพบรรพบุรุษที่เชียงใหม่ว่า
>> >> "หากทำการใหญ่ขึ้นเป็น
>>ประธานาธิบดีของประเทศไทย
>> >>ล้มล้างราชวงศ์จักรีให้สิ้นไปไม่ได้
>> >>จะกลับมา
>> >> ฆ่าตัวตายที่หน้าหลุมศพบรรพชน"
>> >>
>> >> ทักษิณ ชินวัตร
>> >> ทรราชย์ผู้ยึดมั่นถือมั่นต่อคำทำนาย
>> >> เรื่องการที่ไม่มีรัชกาลที่ 10 ในแผ่นดินไทย เป็น
>>
>> เครื่องนำทางว่า
>> >>ตนเองจะได้เป็นใหญ่แต่เพียงผู้เดียวในแผ่นดินนี้
>> >>ได้ทำทุกทางแม้แต่การขายชาติ
>> >>และท้ายสถาบันพระมหากษัตริย์
>> >> กระทำตนเองเยี่ยงยิ่งกว่ากบฏทรราช
>> >> ย์กว่าทุกยุคที่ผ่านมา
>> >>การกระทำทั้งหลายคือข้อพิสูจน์ที่ไม่มีเวลาไปหวนคิดถึงว่าคนอย่างทักษิณ
>> >> จะทำได้หรือ เพราะทุกท่านได้เห็นกับตาตนเองมาแล้ว
>> >>ทักษิณ
>>ตระบัดสัตย์กับประชาชนของตนเอง
>> >>
>> >> และตระบัดสัตย์ต่อเบื้องพระพักตร์ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
>> >>และโกหกหลอกลวงอยู่เรื่อยมา
>> >>ลูกแกะตนนี้ไม่ได้หลงทาง
>> >> แต่ลูกแกะตนนี้มันคือหมาป่าที่ต้องการฆ่าลูกแกะทั้งฝูง
>> >>และยึดประเทศนี้เพื่อขึ้น
>>
>> เป็นใหญ่
>> >>เหนือเหล่าหมาป่าของโลก
>> >>ท่านที่ได้อ่านจงพิจารณาให้ดีเถอะ
>> >>หนทางเลือกของท่านมีไม่มากนัก
>> >> 1.
>> >>หากท่านยอมรับนับถือทรราชย์เป็นเจ้าชีวิตท่านก็คือผู้ยอมตัวเป็นทาสและใน
>> >จิตวิญญาณของท่านไม่ ได้เหลือไว้ซึ่งความจงรักภักดีต่อ
>> >พ่อของแผ่นดินแม้แต่
>> >น้อย
>> >>2.
>>
>> >>หากท่านนิ่งเฉยกับทุกสิ่งไม่รับรู้และยังคงอยู่กับความเพ้อฝันไปวันๆว่าจะมี
>> >อนาคตที่ดีกว่ารอคอย
>> >>ท่านก็จะต้องตายอย่างน่าสมเพชในที่สุด เมื่อทรราชย์ได้แผ่ขยายอำนาจสร้างความ
>> >ตายมาถึงท่านสุดแต่ จะช้าเร็วแค่ไหน
>> >> 3.
>> >>หากท่านเลือกที่จะสู้ไม่ใช่แค่เพียงคำพูดท่านจะต้องแสดงตัวออกมาไม่ต้องไม่
>> >กลัวมันอย่างมากก็แค่ตาย
แต่ถ้าต้องอยู่อย่างหมา
>>ก็ไม่รู้จะอยู่ไปทำไป
ป้ายกำกับ:
ราชวงศ์จักรี
ความแม่นยำของคำทำนาย
เมื่อพิจารณาถึงคำทำนายและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ละรัชกาลก็จะเห็นได้ชัดว่า คำทำนายนั้นถูกต้องเพียงใด
รัชกาลที่ ๑. ผ่าน พระเจ้าตากสิน ขึ้นครองราชย์สมบัติ
รัชกาลที่ ๒. ท่านว่างจากศึกสงครามก็หันมาทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ให้พระสงฆ์ค้นคว้าพระธรรมวินัยรวบรวมกันเป็นการใหญ่
รัชกาลที่ ๓. ท่านมีหัวคิดริเริ่มหาเงินมาสร้างสรรค์บ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองปรากฏมาจนถึงทุกวันนี้
รัชกาลที่ ๔. ท่านสนิทธรรม ก็เพราะพระราชาองค์นี้ทรงผนวชถึง ๒๗ พรรษา มีความคล่องตัวในพระธรรมวินัย ทรงไว้ซึ่งพระไตรปิฎกอย่างแตกฉาน และยังมีความสนิทสนมกับ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) อย่างยิ่ง เป็นคู่บารมีกัน
รัชกาลที่ ๕. จำแขนขาด เราเห็นได้ชัดมาก เพราะเราต้องเสียดินแดนไปหลายครั้งหลายหน โดยพระองค์ทรงยอมเสียแขนขาดีกว่าเสียตัวทั้งหมด คือยอมเสียผืนแผ่นดินบางส่วน เพื่อรักษาเอกราชของชาติไว้
รัชกาลที่ ๖. เป็นโจร เพราะทรงใช้จ่ายเงินในท้องพระคลังจนหมดสิ้น แต่อาตมาเห็นว่าพระองค์ทรงเป็นนักชาตินิยม มีพระปรีชาสามารถปลุกใจประชาชนให้รักชาติบ้านเมือง เช่นมีเพลงบทหนึ่งทรงพระนิพน์ไว้ว่า “ใครมาเป็นเจ้าเข้าครอง คงจะต้องบังคับขับไส เคี่ยวเข็ญเย็นค่ำร่ำไป ตามวิสัยเชิงเช่นผู้เป็นนาย” ทรงเป็นนักประชาธิปไตย จึงได้ทำทุกอย่างให้บุคคลอื่นเห็นว่า พระองค์ไม่ทรงถือพระองค์ เช่น แสดงมหรสพ เล่นโขนกับข้าราชบริพาร
ยิ่งกว่านั้นพระองค์ยังสามารถทำให้ประเทศไทยเป็นที่ปรากฏแก่ชาวโลก โดยส่งทหารไปช่วยสงครามโลกครั้งที่ ๑. จึงจำเป็นต้องใช้เงินมาก แม้จะใช้เงินมาก แต่ประโยชน์ก็เกิดแก่ประเทศชาติอย่างหนัก
รัชกาลที่ ๗. นั่งทนทุกข์ พระองค์เสวยราชสมบัติอยู่ในเกณฑ์ตกอับพอดี เงินในท้องพระคลังก็หมดมาแต่รัชกาลก่อน พระองค์จึงทรงประทับอยู่บนกองทุกข์ต้องดุลข้าราชการออกเป็นจำนวนมาก เท่านั้นยังไม่พอ ต่อมาพระองค์ต้องจำพระทัยสละราชสมบัติ ไปนั่งทนทุกข์อยู่ต่างแดน จนสิ้นพระชนม์
รัชกาลที่ ๘. ยุคทมิฬ บ้านเมืองอยู่ในภาวะสงครามโลกครั้งที่ ๒. ประชาชนตกอยู่ในสภาพบ้านแตก อดอยากยากแค้นแสนสาหัส พระมหากษัตริย์ก็ถูกลอบปลงพระชนม์จนสวรรคต
รัชกาลที่ ๙. ทำนายว่า ถิ่นกาขาว เราก็เห็นแล้วว่าฝรั่งมาอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง ล้วนแต่คนผิวขาวทั้งนั้น
สำหรับรัชกาลต่อไป คือ รัชกาลที่ ๑๐. ทำนายว่า ชาววิไล หมายความว่า บ้านเมืองเราได้ผ่านยุคเข็ญมาแล้ว จะได้ประสบความเจริญรุ่งเรืองกันเสียที เราจะมั่งคั่งสมบูรณ์เหมือนนานาอารยะประเทศที่เจริญแล้วทั้งหลาย
รัชกาลที่ ๑. ผ่าน พระเจ้าตากสิน ขึ้นครองราชย์สมบัติ
รัชกาลที่ ๒. ท่านว่างจากศึกสงครามก็หันมาทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ให้พระสงฆ์ค้นคว้าพระธรรมวินัยรวบรวมกันเป็นการใหญ่
รัชกาลที่ ๓. ท่านมีหัวคิดริเริ่มหาเงินมาสร้างสรรค์บ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองปรากฏมาจนถึงทุกวันนี้
รัชกาลที่ ๔. ท่านสนิทธรรม ก็เพราะพระราชาองค์นี้ทรงผนวชถึง ๒๗ พรรษา มีความคล่องตัวในพระธรรมวินัย ทรงไว้ซึ่งพระไตรปิฎกอย่างแตกฉาน และยังมีความสนิทสนมกับ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) อย่างยิ่ง เป็นคู่บารมีกัน
รัชกาลที่ ๕. จำแขนขาด เราเห็นได้ชัดมาก เพราะเราต้องเสียดินแดนไปหลายครั้งหลายหน โดยพระองค์ทรงยอมเสียแขนขาดีกว่าเสียตัวทั้งหมด คือยอมเสียผืนแผ่นดินบางส่วน เพื่อรักษาเอกราชของชาติไว้
รัชกาลที่ ๖. เป็นโจร เพราะทรงใช้จ่ายเงินในท้องพระคลังจนหมดสิ้น แต่อาตมาเห็นว่าพระองค์ทรงเป็นนักชาตินิยม มีพระปรีชาสามารถปลุกใจประชาชนให้รักชาติบ้านเมือง เช่นมีเพลงบทหนึ่งทรงพระนิพน์ไว้ว่า “ใครมาเป็นเจ้าเข้าครอง คงจะต้องบังคับขับไส เคี่ยวเข็ญเย็นค่ำร่ำไป ตามวิสัยเชิงเช่นผู้เป็นนาย” ทรงเป็นนักประชาธิปไตย จึงได้ทำทุกอย่างให้บุคคลอื่นเห็นว่า พระองค์ไม่ทรงถือพระองค์ เช่น แสดงมหรสพ เล่นโขนกับข้าราชบริพาร
ยิ่งกว่านั้นพระองค์ยังสามารถทำให้ประเทศไทยเป็นที่ปรากฏแก่ชาวโลก โดยส่งทหารไปช่วยสงครามโลกครั้งที่ ๑. จึงจำเป็นต้องใช้เงินมาก แม้จะใช้เงินมาก แต่ประโยชน์ก็เกิดแก่ประเทศชาติอย่างหนัก
รัชกาลที่ ๗. นั่งทนทุกข์ พระองค์เสวยราชสมบัติอยู่ในเกณฑ์ตกอับพอดี เงินในท้องพระคลังก็หมดมาแต่รัชกาลก่อน พระองค์จึงทรงประทับอยู่บนกองทุกข์ต้องดุลข้าราชการออกเป็นจำนวนมาก เท่านั้นยังไม่พอ ต่อมาพระองค์ต้องจำพระทัยสละราชสมบัติ ไปนั่งทนทุกข์อยู่ต่างแดน จนสิ้นพระชนม์
รัชกาลที่ ๘. ยุคทมิฬ บ้านเมืองอยู่ในภาวะสงครามโลกครั้งที่ ๒. ประชาชนตกอยู่ในสภาพบ้านแตก อดอยากยากแค้นแสนสาหัส พระมหากษัตริย์ก็ถูกลอบปลงพระชนม์จนสวรรคต
รัชกาลที่ ๙. ทำนายว่า ถิ่นกาขาว เราก็เห็นแล้วว่าฝรั่งมาอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง ล้วนแต่คนผิวขาวทั้งนั้น
สำหรับรัชกาลต่อไป คือ รัชกาลที่ ๑๐. ทำนายว่า ชาววิไล หมายความว่า บ้านเมืองเราได้ผ่านยุคเข็ญมาแล้ว จะได้ประสบความเจริญรุ่งเรืองกันเสียที เราจะมั่งคั่งสมบูรณ์เหมือนนานาอารยะประเทศที่เจริญแล้วทั้งหลาย
ป้ายกำกับ:
ราชวงศ์จักรี
ทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าทั้ง ๑๐ รัชกาล
ในสมุดข่อยเล่มเดียวกันนี้ พระพุทธโฆษาจารย์ได้กล่าวทำนายเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นแก่กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงใหม่ ในวันข้างหน้า ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นแต่ละรัชกาลดังนี้
รัชกาลที่ ๑. ทำนายว่า มหากาฬผ่านมหายักษ์
รัชกาลที่ ๒. ทำนายว่า รู้จักธรรม
รัชกาลที่ ๓. ทำนายว่า จำต้องคิด
รัชกาลที่ ๔. ทำนายว่า สนิทธรรม
รัชกาลที่ ๕. ทำนายว่า จำแขนขาด
รัชกาลที่ ๖. ทำนายว่า ราษฎร์ราชาโจร
รัชกาลที่ ๗. ทำนายว่า นั่งทนทุกข์
รัชกาลที่ ๘. ทำนายว่า ยุคทมิฬ
รัชกาลที่ ๙. ทำนายว่า ถิ่นกาขาว
รัชกาลที่ ๑๐. ทำนายว่า ชาววิไล
รัชกาลที่ ๑. ทำนายว่า มหากาฬผ่านมหายักษ์
รัชกาลที่ ๒. ทำนายว่า รู้จักธรรม
รัชกาลที่ ๓. ทำนายว่า จำต้องคิด
รัชกาลที่ ๔. ทำนายว่า สนิทธรรม
รัชกาลที่ ๕. ทำนายว่า จำแขนขาด
รัชกาลที่ ๖. ทำนายว่า ราษฎร์ราชาโจร
รัชกาลที่ ๗. ทำนายว่า นั่งทนทุกข์
รัชกาลที่ ๘. ทำนายว่า ยุคทมิฬ
รัชกาลที่ ๙. ทำนายว่า ถิ่นกาขาว
รัชกาลที่ ๑๐. ทำนายว่า ชาววิไล
ป้ายกำกับ:
ราชวงศ์จักรี
Situation now ใครจะได้เป็นรัชกาลที่10 Who will be a reign of 10.
Near the end of King Bhumibol and agenda. แทนที่จะวางมือหรือมอบอำนาจให้กับใครสักคนต่อไปอย่างเป็นทางการ Instead of hand or power of attorney to someone to officially ดูเหมือนกษัตริย์แก่ที่มีอาการล่อแล่อยู่ในตอนนี้ Kings seems to have symptoms ล่อแล่ in now ยังพยายามกุมอำนาจเอาไว้ในมือต่อไป To try to hold power in the hands to remove.
ไม่ว่าจะมีแพทย์ดูแลอย่างดีเยี่ยม Whether medical care is excellent. ไม่ว่าทางการจะแก้ข่าวว่าอาการดีขึ้นแล้วอย่างไร That official news will not solve the symptom improved and how สังขารของชายชราอายุ 81 ปี คงจะหมดสภาพไปในไม่ช้านี้ Printer-friendly version of an old man aged 81 years would be damaged to soon. อาจจะไม่เกินภายใน 90 วันเป็นอย่างมาก May not exceed 90 days within a much
ภายในประเทศไทยเอง Local custom. ก็ไม่มีการยอมรับความจริงกับสภาพของกษัตริย์ไทยว่า There is no condition to accept the fact that the Thai king. เขาไม่ใช่เทพหรือเทวดา Thep or they are not angels. แต่เขาเป็นเพียงคนธรรมดาที่จะไม่มีชีวิตอยู่ยั่งยืน But he is only natural that people are not living sustainable. การสวดมนต์ภาวนาอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายของชาวไทยทั่วประเทศ หรือ การทำบุญในรูปแบบทุกอย่าง The petition prayer pray holy rites of Thais throughout the country or the merit in all formats. ก็คงจะไม่สามารถต่ออายุของมนุษย์อย่างภูมิพลให้ยาวต่อไปอีกได้แล้ว Would not be able to renew the human Bhumibol to further the already long.
ปัญหาในระบบการปกครองที่มีกฎหมายที่ไม่แน่นอนและไม่เที่ยงธรรม Problems in the legal regime of uncertainty and unjust โดยตีความหมายและแก้ไขกันแบบตามใจใครตามใจมัน The interpretation and correct each other as one ตามใจ ตามใจ it. แล้วแต่ใครขึ้นมาอิทธิพลในการบริหารประเทศ Who comes up depending on the influence of the country. และการไม่ยอมให้ชาวบ้านทั่วไปได้กล้าพูดวิจารณ์ถึงการสืบสันตติวงศ์ And not let people say general review of succession to the royal succession จึงดูเสมือนว่า Is more like that ประเทศไทยจะเข้าสู่ยุคที่ปั่นปวนในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน Thailand will enter the era of spin in the coming year surely
ในสำนักข่าวต่างประเทศ In foreign news agency. ต่างวิจารณ์กันว่า วัชิราลงกรณ์ (Prince Vachiralongkorn)จะได้เป็นผู้รับตำแหน่งต่อจาก ภูมิพล International criticism that Wat Wachira to Korn (Prince Vachiralongkorn) will be a recipient succeed Bhumibol.
ซึ่งยังขัดแย้งอยู่กับการคาดคะเนในประเทศไทย This conflicts with the prediction in Thailand ที่มีกลุ่มการเมืองบางกลุ่มสนับสนุนและเชื่อว่า With support groups and some political groups believe that ราชินีสิริกิตต์ Queen Queen Sirikit. จะเป็นผู้กุมอำนาจด้วยตัวเธอเอง Authority is with herself.
เมื่อถึงเวลานั้น ประเทศไทย คนไทย คงต้องปรับตัวกันกับ At that time, Thailand, Thai people will have to adjust with. การปกครองประเทศ และการเมือง ในรูปแบบใหม่อย่างแน่นอน Government and politics in the new format certainly
http://sameskyboard.com/index.php?showtopic=37851 http://sameskyboard.com/index.php?showtopic=37851.
Tue, 13 Oct 2009 18:23:37 - asdwedasa ® Tue, 13 Oct 2009 6:23:37 p.m. -. Asdwedasa ®.
[1] [1]. คนไทย รักในหลวง เพราะท่านไม่ใช่เทพไม่ใช่เทวดา Thais love the King because he is not Thep, not angels. แต่ท่านทำเพื่อประชาชน But you do for people. ท่านพัฒนาโครงการต่างๆเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น You develop programs to better living.
แม้จะประเทศไทย Although Thailand ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข... Rule of democracy with the King as Head of State ... ผมก็ไม่เคยรู้สึกอยู่ในสถานะภาพทาสหรือไพร่อย่างที่พวกฟ้าพวกเีดียวกันพูดในบอร์ด I never felt the Status proletariat as their slaves or Blue  Sorry, they say that each of the board. แต่ผมกลับดีใจด้วยซ้ำที่ประเทศเรามีคน คนนึง ที่ห่วงใยประเทศ But I am happy to repeat that the country we have a person in care. ห่วงใยประชาชน Caring people นั่นคือในหลวง That is the king กษัตริย์ของเรา Our king.
บ้านนี้ เมืองนี้... กว่าจะกอบกู้เป็นปึกแผ่นอยู่ได้ This city is home to ... more strongly in the salvage. จนพวกมึงมีแผ่นดินยืนทุกวันนี้ As they stand today มึง the earth. ก็เพราะพระมหากษัตริย์ไทยในอดีต... Because the King of Thailand in the past ...
พวกคุณ(พวกเหี้ยฟ้าเดียวกัน) เรียกร้องแต่จะหาการเมือง Did you (they damn blue one) but for political claims. การปกครองรูปแบบใหม่ New form of government. คุณเข้าใจในประชาิธิปไตยดีหรือยัง You understand ประ Chai aristocracy or the best. คุณได้แต่ร้องหามัน... You can, but I find it ...
พวกคุณทำอะไรให้ประเทศชาิติ What did you do that in JFS. แบบในหลวงบ้างหรือยัง A king, how to หรือทุกวันนี้คุณมีแต่ปาก กัดแทะ ประเทศชาติไปวันๆ But today you have a mouth or bite to nibble on any nation.
Tue, 13 Oct 2009 19:37:13 - TongLeeHey ® Tue, 13 Oct 2009 19:37:13 -. TongLeeHey ®.
[2] [2]. จขกท ¨ ¢ Bangkok.
พ่อมึงตายเหรอ โพสแบบนี้ ตอนนี้มึงอยู่เขมรเหรอ? มึง father died waiting for these posts is this now มึง Khmer it? เขียนก็เขียนภาษาไทย Writing is written in Thai. ทำไมมึงไม่จงรักภัคดีกับในหลวงบ้าง Why not be loyal มึง Phakdee do with King. ถ้ามึงทำอะไรแค่ได้เศษเสี้ยวในหลวงกูจะไม่ว่าสักคำ If มึง do just the fraction that the king will not loan to a word.
ไปตายให้หนอนแดกซะไอ้สัด The worms devour the dead ซะ ไอ้ copulate
ชัว Chua.
Tue, 13 Oct 2009 20:55:18 - sure ® Tue, 13 Oct 2009 8:55:18 p.m. -. sure ®.
[3] [3]. จขกท ¨ ¢ Bangkok.
มึงอย่าได้พยายามปั่นหัวคนไทยเลย มึง Thais do not try to incite it. คนไทยส่วนใหญ่รักในหลวงเพราะท่านทำประโยชน์ให้ประเทศชาตินานับประการ Thais love the King because he most benefit from the nation Na respects.
มีแต่พวกแดกหญ้าเท่านั้นแหล่ะที่คิดไม่เป็น But they only devour the grass that's it not a thought.
มึงอย่าได้พยายามเลยว่ะ มึง ว่ะ not trying at all. พ่อแม่มึงก็เอากันบนแผ่นดินไทย มึง parents took on a Thai Kingdom. ถึงมีมึงออกมา อายหมาไหม? To a dog's eye out มึง silk?
ชัว Chua.
Tue, 13 Oct 2009 20:58:24 - sure ® Tue, 13 Oct 2009 8:58:24 p.m. -. sure ®.
[4] [4]. ลบเหอะครับWM Remove เหอะ ครับ WM.
Tue, 13 Oct 2009 21:00:18 - cakewalk ® Tue, 13 Oct 2009 21:00:18 -. Cakewalk ®.
[5] [5]. มี login แล้ว Then the login.
ก็ยังจะสร้างความปวดหัวให้กับที่นี่อีกแนะ It also creates headaches for the other comments here.
Tue, 13 Oct 2009 22:29:46 - นิสิตสุรา ® Tue, 13 Oct 2009 22:29:46 -. Student Smoking ®.
[6] [6]. ^ ^.
ไม่มีคนเกรียนด้วยเลย ไม่มันส์ Very short with people I do not no fun.
หดหู่ เซง Seng depressed.
Wed, 14 Oct 2009 00:25:05 - sure ® Wed, 14 Oct 2009 12:25:05 a.m. -. sure ®.
[7] [7]. เห็นด้วยอย่างยิ่งกับ [1] Strongly agree with [1].
พวกฟ้าเดียวกัน Them the same sky. คุณทำอะไรให้กับประเทศชาติบ้างหรือยัง What do you do for the country, how to หรือดีแต่กัดคนอื่นไปวันๆ Or good, but limited to persons other day.
ไม่ช่วยสร้าง ก็อย่าทำลายครับ ขอร้องเถอะ ประเทศชาติเสียหายมามากเกินพอแล้ว No, do not destroy the wizard asked ครับ Let the nation more than enough damage.
อยากให้ admin ลบกระทู้นี้ครับ Admin want to delete this topic ครับ. ถึงแม้ว่าธรรมศาสตร์จะมีเสรีภาพทุกตารางนิ้ว Although Thammasat have freedom every square inch. แต่มันก็ต้องมีขอบเขต But it was to some extent. ต้องรู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร What should I know what should not. ถ้าเราเก็บไว้ก็เหมือนกับช่วยมันประชาสัมพันธ์ให้คนอ่านมากขึ้นอีก If we keep it as it helps to release more people read more ยิ่งไม่ดีไปใหญ่เลย The more it is not good to great.
ขอบคุณมากครับ Thank you very much.
Wed, 14 Oct 2009 01:58:11 - Vertex ® Wed, 14 Oct 2009 1:58:11 -. Vertex ®.
[8] [8]. เอิ่มมมมม ท่านทรงทำแต่สิ่งดีๆมาโดยตลอดครับ Earn mm mm mm he has done good things but has always been ครับ. ผมรักท่านครับ I love you ครับ. ความดีชนะทุกสิ่งครับ Good win everything ครับ.
Wed, 14 Oct 2009 07:17:24 - 5harever ® Wed, 14 Oct 2009 7:17:24 -. 5harever ®.
[9] [9]. กระทู้นี้เองที่เป็นเหตุแห่งความลำบากของชาวบอร์ด This topic is itself the cause of the difficulty of people board.
ผมคิดว่ากระทู้นี้สำหรับคนที่มี"ความคิด"จะไม่ได้รู้สึกอะไรกับคำพูด"สวะ"ของ[0]เลยซักนิด I think that it is for people who "thought" would not feel anything with the word "rubbish" of [0] I wash a little.
ถึงผมจะไม่ได้เกิดในยุคกู้กรุงศรีตีบ้านเมือง I do not have to be born during the recovery Krungsri hit country ผมก็ไม่ได้มีความรู้สึกที่จะ"ต่อต้าน"ระบบ I do not have the feeling that "anti-system.
อย่างน้อยผมก็เกิดในแผ่นดินที่ชนรุ่นก่อนๆสร้างกันมา At least I was in the land that generations earlier the same building.
แม้ว่าปัจจุบันจะไม่มีการรบพุ่งกันแล้ว Although there is no war together already. คนที่[0]พาดพิงก็ทำในสิ่งที่น้อยคนนักบนโลกนี้จะทำ People [0] refer it to do what few people on earth do นัก.
พัฒนาสิ่งต่างๆนาๆ Development is different ช่วยเหลือคนจำนวนมากอย่างสุดและเกินกำลัง Help our best and many people are over.
ผมพูดได้ไม่หรอกนะว่ารักในหลวงเพราะอะไร I can not say that love King Mikuru why เพราะผมไม่ได้ลึกซึ้งในระบบขนาดนั้น I did not have that depth in size.
มองในมุมของคนธรรมดาอย่างผม Look in the corner of ordinary people like me. ถึงแม้ว่า"คนที่คุณก็รุ้ว่าใคร"ไม่ใช่เทพหรือเทวดา Although "people who you รุ้" Thep or not angels.
อย่างน้อยท่านก็เป็นคนที่ทำความดีเพื่อคนอื่นมากมาย At least he is a good person to many others. มันไม่ใช่เรื่องดีหรอกหรือ It is not good หรอก or
อนาคตมันจะเป็นยังไงใครจะไม่ศรัทธาในสิ่งที่กำลังจะเกิด Future it will be like who do not believe in things being taken.
แต่อย่างน้อยก่อนที่จะมีวันนี้บรรพบุรุษเราก็ทำให้ไทยเป็นไทยมาถึงทุกวันนี้ But at least a day before we make Thai fathers to come to Thailand today.
แล้วทำไมคนที่เรียกตัวเองว่าคนไทย"บางกลุ่ม"จึงไม่ภูมิใจในความเป็นไทย Why do people call themselves Thai "certain groups" are not proud of being Thai.
มันแปลกดีเนอะ A good เน it strange.
Wed, 14 Oct 2009 10:32:09 - KoNBaA ® Wed, 14 Oct 2009 10:32:09 -. KoNBaA ®.
[10] [10]. ถึงมีล็อกอิน หรือไม่มี Login to have or not.
ถ้ามีกระทู้แบบนี้ If this topic. สถาบันก็ไม่โปรดอยู่ดีนั่นแหละ That institution can not please anyway.
แล้วมันห้ามไม่ให้คนโพสต์ได้ไหม ก็ไม่ได้น่ะ And it prohibits the person posting did not น่ะ silk.
ส่วนคุณชัว เขาก็สม่ำเสมอดี Chua of you, he consistently good ราวกับทำเป็นอาชีพ Like rank.
Wed, 14 Oct 2009 19:54:30 - bact'(bact ® ) Wed, 14 Oct 2009 19:54:30 -. bact '(bact ®).
[11] [11]. ก็ลบไปสิครับ I deleted สิ ครับ.
สมัคร id ใหม่ก็ให้มันไปผูกกับ verify email ด้วย Register new id, then tied it to verify email with
ถ้าไม่อยากลบ เอา authority มา If you do not want to delete the authority to remove.
เดี๋ยวลบให้ Remove the moment.
ผมไม่สนหรอกว่าใครจะมองว่าเป็นพวกไม่เปิด พวกปิดกั้น พวก ฯลฯ (แล้วแต่อุดมการณ์ของใครจะเรียก) I would not mind who sees them not as they open their caps, etc. (depending on whose ideology is called).
เสรีภาพแบบการไปเลือกตั้ง Freedom of the election. เราก็ยังต้องไปแสดงบัตรประชาชน We also need to show ID.
ถ้าเป็น anonimity แล้วมัน abuse มันไม่เรียกเสรีภาพ If a anonimity then it does not call it abuse freedom.
แต่เอาเหอะ เบื่อจะเถียงเรื่องนี้ But เหอะ bored out to argue about this.
Wed, 14 Oct 2009 21:36:15 - กาเมะฮิโระ ® Wed, 14 Oct 2009 21:36:15 -. check pile Hiroshima ®.
[12] [12]. [0] [0].
ไอ้ ไอ้.
Wed, 14 Oct 2009 22:58:00 - MTG ® Wed, 14 Oct 2009 10:58:00 p.m. -. MTG ®.
[13] [13]. หมายถึงลบ [2] กับ [3] น่ะนะ Means to remove [2] and [3] girl costume.
Wed, 14 Oct 2009 23:45:56 - bact ® Wed, 14 Oct 2009 23:45:56 -. bact ®.
[14] [14]. [13] [13].
ไอ้เนี่ย น่าลบสุด ไอ้ เนี่ Carolina delete first.
แต่ login ได้ผลนะ But I login works.
ความเกรียนมันมีหลักมีการมากขึ้น The core is very short, it is more.
Thu, 15 Oct 2009 11:08:14 - กาเมะฮิโระ ® Thu, 15 Oct 2009 11:08:14 -. check pile Hiroshima ®.
[15] [15]. มีล็อกอิน แต่ไม่ verify email จะทำล็อกอินทำไม The log, but do not verify email login why
Thu, 15 Oct 2009 12:18:14 - TongLeeHey ® Thu, 15 Oct 2009 12:18:14 -. TongLeeHey ®.
[16] [16]. .... ....
Fri, 16 Oct 2009 01:51:12 - โสด น่ารัก เร้าใจ ® Fri, 16 Oct 2009 01:51:12 -. Single lovely inspirational ®.
[17] [17]. http://sameskyboard.com/index.php?showtopic=37851 http://sameskyboard.com/index.php?showtopic=37851.
Thu, 5 Nov 2009 00:50:14 - โท เซ่ ® Thu, 5 Nov 2009 00:50:14 -. Tony Jose ®.
ไม่ว่าจะมีแพทย์ดูแลอย่างดีเยี่ยม Whether medical care is excellent. ไม่ว่าทางการจะแก้ข่าวว่าอาการดีขึ้นแล้วอย่างไร That official news will not solve the symptom improved and how สังขารของชายชราอายุ 81 ปี คงจะหมดสภาพไปในไม่ช้านี้ Printer-friendly version of an old man aged 81 years would be damaged to soon. อาจจะไม่เกินภายใน 90 วันเป็นอย่างมาก May not exceed 90 days within a much
ภายในประเทศไทยเอง Local custom. ก็ไม่มีการยอมรับความจริงกับสภาพของกษัตริย์ไทยว่า There is no condition to accept the fact that the Thai king. เขาไม่ใช่เทพหรือเทวดา Thep or they are not angels. แต่เขาเป็นเพียงคนธรรมดาที่จะไม่มีชีวิตอยู่ยั่งยืน But he is only natural that people are not living sustainable. การสวดมนต์ภาวนาอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายของชาวไทยทั่วประเทศ หรือ การทำบุญในรูปแบบทุกอย่าง The petition prayer pray holy rites of Thais throughout the country or the merit in all formats. ก็คงจะไม่สามารถต่ออายุของมนุษย์อย่างภูมิพลให้ยาวต่อไปอีกได้แล้ว Would not be able to renew the human Bhumibol to further the already long.
ปัญหาในระบบการปกครองที่มีกฎหมายที่ไม่แน่นอนและไม่เที่ยงธรรม Problems in the legal regime of uncertainty and unjust โดยตีความหมายและแก้ไขกันแบบตามใจใครตามใจมัน The interpretation and correct each other as one ตามใจ ตามใจ it. แล้วแต่ใครขึ้นมาอิทธิพลในการบริหารประเทศ Who comes up depending on the influence of the country. และการไม่ยอมให้ชาวบ้านทั่วไปได้กล้าพูดวิจารณ์ถึงการสืบสันตติวงศ์ And not let people say general review of succession to the royal succession จึงดูเสมือนว่า Is more like that ประเทศไทยจะเข้าสู่ยุคที่ปั่นปวนในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน Thailand will enter the era of spin in the coming year surely
ในสำนักข่าวต่างประเทศ In foreign news agency. ต่างวิจารณ์กันว่า วัชิราลงกรณ์ (Prince Vachiralongkorn)จะได้เป็นผู้รับตำแหน่งต่อจาก ภูมิพล International criticism that Wat Wachira to Korn (Prince Vachiralongkorn) will be a recipient succeed Bhumibol.
ซึ่งยังขัดแย้งอยู่กับการคาดคะเนในประเทศไทย This conflicts with the prediction in Thailand ที่มีกลุ่มการเมืองบางกลุ่มสนับสนุนและเชื่อว่า With support groups and some political groups believe that ราชินีสิริกิตต์ Queen Queen Sirikit. จะเป็นผู้กุมอำนาจด้วยตัวเธอเอง Authority is with herself.
เมื่อถึงเวลานั้น ประเทศไทย คนไทย คงต้องปรับตัวกันกับ At that time, Thailand, Thai people will have to adjust with. การปกครองประเทศ และการเมือง ในรูปแบบใหม่อย่างแน่นอน Government and politics in the new format certainly
http://sameskyboard.com/index.php?showtopic=37851 http://sameskyboard.com/index.php?showtopic=37851.
Tue, 13 Oct 2009 18:23:37 - asdwedasa ® Tue, 13 Oct 2009 6:23:37 p.m. -. Asdwedasa ®.
[1] [1]. คนไทย รักในหลวง เพราะท่านไม่ใช่เทพไม่ใช่เทวดา Thais love the King because he is not Thep, not angels. แต่ท่านทำเพื่อประชาชน But you do for people. ท่านพัฒนาโครงการต่างๆเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น You develop programs to better living.
แม้จะประเทศไทย Although Thailand ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข... Rule of democracy with the King as Head of State ... ผมก็ไม่เคยรู้สึกอยู่ในสถานะภาพทาสหรือไพร่อย่างที่พวกฟ้าพวกเีดียวกันพูดในบอร์ด I never felt the Status proletariat as their slaves or Blue  Sorry, they say that each of the board. แต่ผมกลับดีใจด้วยซ้ำที่ประเทศเรามีคน คนนึง ที่ห่วงใยประเทศ But I am happy to repeat that the country we have a person in care. ห่วงใยประชาชน Caring people นั่นคือในหลวง That is the king กษัตริย์ของเรา Our king.
บ้านนี้ เมืองนี้... กว่าจะกอบกู้เป็นปึกแผ่นอยู่ได้ This city is home to ... more strongly in the salvage. จนพวกมึงมีแผ่นดินยืนทุกวันนี้ As they stand today มึง the earth. ก็เพราะพระมหากษัตริย์ไทยในอดีต... Because the King of Thailand in the past ...
พวกคุณ(พวกเหี้ยฟ้าเดียวกัน) เรียกร้องแต่จะหาการเมือง Did you (they damn blue one) but for political claims. การปกครองรูปแบบใหม่ New form of government. คุณเข้าใจในประชาิธิปไตยดีหรือยัง You understand ประ Chai aristocracy or the best. คุณได้แต่ร้องหามัน... You can, but I find it ...
พวกคุณทำอะไรให้ประเทศชาิติ What did you do that in JFS. แบบในหลวงบ้างหรือยัง A king, how to หรือทุกวันนี้คุณมีแต่ปาก กัดแทะ ประเทศชาติไปวันๆ But today you have a mouth or bite to nibble on any nation.
Tue, 13 Oct 2009 19:37:13 - TongLeeHey ® Tue, 13 Oct 2009 19:37:13 -. TongLeeHey ®.
[2] [2]. จขกท ¨ ¢ Bangkok.
พ่อมึงตายเหรอ โพสแบบนี้ ตอนนี้มึงอยู่เขมรเหรอ? มึง father died waiting for these posts is this now มึง Khmer it? เขียนก็เขียนภาษาไทย Writing is written in Thai. ทำไมมึงไม่จงรักภัคดีกับในหลวงบ้าง Why not be loyal มึง Phakdee do with King. ถ้ามึงทำอะไรแค่ได้เศษเสี้ยวในหลวงกูจะไม่ว่าสักคำ If มึง do just the fraction that the king will not loan to a word.
ไปตายให้หนอนแดกซะไอ้สัด The worms devour the dead ซะ ไอ้ copulate
ชัว Chua.
Tue, 13 Oct 2009 20:55:18 - sure ® Tue, 13 Oct 2009 8:55:18 p.m. -. sure ®.
[3] [3]. จขกท ¨ ¢ Bangkok.
มึงอย่าได้พยายามปั่นหัวคนไทยเลย มึง Thais do not try to incite it. คนไทยส่วนใหญ่รักในหลวงเพราะท่านทำประโยชน์ให้ประเทศชาตินานับประการ Thais love the King because he most benefit from the nation Na respects.
มีแต่พวกแดกหญ้าเท่านั้นแหล่ะที่คิดไม่เป็น But they only devour the grass that's it not a thought.
มึงอย่าได้พยายามเลยว่ะ มึง ว่ะ not trying at all. พ่อแม่มึงก็เอากันบนแผ่นดินไทย มึง parents took on a Thai Kingdom. ถึงมีมึงออกมา อายหมาไหม? To a dog's eye out มึง silk?
ชัว Chua.
Tue, 13 Oct 2009 20:58:24 - sure ® Tue, 13 Oct 2009 8:58:24 p.m. -. sure ®.
[4] [4]. ลบเหอะครับWM Remove เหอะ ครับ WM.
Tue, 13 Oct 2009 21:00:18 - cakewalk ® Tue, 13 Oct 2009 21:00:18 -. Cakewalk ®.
[5] [5]. มี login แล้ว Then the login.
ก็ยังจะสร้างความปวดหัวให้กับที่นี่อีกแนะ It also creates headaches for the other comments here.
Tue, 13 Oct 2009 22:29:46 - นิสิตสุรา ® Tue, 13 Oct 2009 22:29:46 -. Student Smoking ®.
[6] [6]. ^ ^.
ไม่มีคนเกรียนด้วยเลย ไม่มันส์ Very short with people I do not no fun.
หดหู่ เซง Seng depressed.
Wed, 14 Oct 2009 00:25:05 - sure ® Wed, 14 Oct 2009 12:25:05 a.m. -. sure ®.
[7] [7]. เห็นด้วยอย่างยิ่งกับ [1] Strongly agree with [1].
พวกฟ้าเดียวกัน Them the same sky. คุณทำอะไรให้กับประเทศชาติบ้างหรือยัง What do you do for the country, how to หรือดีแต่กัดคนอื่นไปวันๆ Or good, but limited to persons other day.
ไม่ช่วยสร้าง ก็อย่าทำลายครับ ขอร้องเถอะ ประเทศชาติเสียหายมามากเกินพอแล้ว No, do not destroy the wizard asked ครับ Let the nation more than enough damage.
อยากให้ admin ลบกระทู้นี้ครับ Admin want to delete this topic ครับ. ถึงแม้ว่าธรรมศาสตร์จะมีเสรีภาพทุกตารางนิ้ว Although Thammasat have freedom every square inch. แต่มันก็ต้องมีขอบเขต But it was to some extent. ต้องรู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร What should I know what should not. ถ้าเราเก็บไว้ก็เหมือนกับช่วยมันประชาสัมพันธ์ให้คนอ่านมากขึ้นอีก If we keep it as it helps to release more people read more ยิ่งไม่ดีไปใหญ่เลย The more it is not good to great.
ขอบคุณมากครับ Thank you very much.
Wed, 14 Oct 2009 01:58:11 - Vertex ® Wed, 14 Oct 2009 1:58:11 -. Vertex ®.
[8] [8]. เอิ่มมมมม ท่านทรงทำแต่สิ่งดีๆมาโดยตลอดครับ Earn mm mm mm he has done good things but has always been ครับ. ผมรักท่านครับ I love you ครับ. ความดีชนะทุกสิ่งครับ Good win everything ครับ.
Wed, 14 Oct 2009 07:17:24 - 5harever ® Wed, 14 Oct 2009 7:17:24 -. 5harever ®.
[9] [9]. กระทู้นี้เองที่เป็นเหตุแห่งความลำบากของชาวบอร์ด This topic is itself the cause of the difficulty of people board.
ผมคิดว่ากระทู้นี้สำหรับคนที่มี"ความคิด"จะไม่ได้รู้สึกอะไรกับคำพูด"สวะ"ของ[0]เลยซักนิด I think that it is for people who "thought" would not feel anything with the word "rubbish" of [0] I wash a little.
ถึงผมจะไม่ได้เกิดในยุคกู้กรุงศรีตีบ้านเมือง I do not have to be born during the recovery Krungsri hit country ผมก็ไม่ได้มีความรู้สึกที่จะ"ต่อต้าน"ระบบ I do not have the feeling that "anti-system.
อย่างน้อยผมก็เกิดในแผ่นดินที่ชนรุ่นก่อนๆสร้างกันมา At least I was in the land that generations earlier the same building.
แม้ว่าปัจจุบันจะไม่มีการรบพุ่งกันแล้ว Although there is no war together already. คนที่[0]พาดพิงก็ทำในสิ่งที่น้อยคนนักบนโลกนี้จะทำ People [0] refer it to do what few people on earth do นัก.
พัฒนาสิ่งต่างๆนาๆ Development is different ช่วยเหลือคนจำนวนมากอย่างสุดและเกินกำลัง Help our best and many people are over.
ผมพูดได้ไม่หรอกนะว่ารักในหลวงเพราะอะไร I can not say that love King Mikuru why เพราะผมไม่ได้ลึกซึ้งในระบบขนาดนั้น I did not have that depth in size.
มองในมุมของคนธรรมดาอย่างผม Look in the corner of ordinary people like me. ถึงแม้ว่า"คนที่คุณก็รุ้ว่าใคร"ไม่ใช่เทพหรือเทวดา Although "people who you รุ้" Thep or not angels.
อย่างน้อยท่านก็เป็นคนที่ทำความดีเพื่อคนอื่นมากมาย At least he is a good person to many others. มันไม่ใช่เรื่องดีหรอกหรือ It is not good หรอก or
อนาคตมันจะเป็นยังไงใครจะไม่ศรัทธาในสิ่งที่กำลังจะเกิด Future it will be like who do not believe in things being taken.
แต่อย่างน้อยก่อนที่จะมีวันนี้บรรพบุรุษเราก็ทำให้ไทยเป็นไทยมาถึงทุกวันนี้ But at least a day before we make Thai fathers to come to Thailand today.
แล้วทำไมคนที่เรียกตัวเองว่าคนไทย"บางกลุ่ม"จึงไม่ภูมิใจในความเป็นไทย Why do people call themselves Thai "certain groups" are not proud of being Thai.
มันแปลกดีเนอะ A good เน it strange.
Wed, 14 Oct 2009 10:32:09 - KoNBaA ® Wed, 14 Oct 2009 10:32:09 -. KoNBaA ®.
[10] [10]. ถึงมีล็อกอิน หรือไม่มี Login to have or not.
ถ้ามีกระทู้แบบนี้ If this topic. สถาบันก็ไม่โปรดอยู่ดีนั่นแหละ That institution can not please anyway.
แล้วมันห้ามไม่ให้คนโพสต์ได้ไหม ก็ไม่ได้น่ะ And it prohibits the person posting did not น่ะ silk.
ส่วนคุณชัว เขาก็สม่ำเสมอดี Chua of you, he consistently good ราวกับทำเป็นอาชีพ Like rank.
Wed, 14 Oct 2009 19:54:30 - bact'(bact ® ) Wed, 14 Oct 2009 19:54:30 -. bact '(bact ®).
[11] [11]. ก็ลบไปสิครับ I deleted สิ ครับ.
สมัคร id ใหม่ก็ให้มันไปผูกกับ verify email ด้วย Register new id, then tied it to verify email with
ถ้าไม่อยากลบ เอา authority มา If you do not want to delete the authority to remove.
เดี๋ยวลบให้ Remove the moment.
ผมไม่สนหรอกว่าใครจะมองว่าเป็นพวกไม่เปิด พวกปิดกั้น พวก ฯลฯ (แล้วแต่อุดมการณ์ของใครจะเรียก) I would not mind who sees them not as they open their caps, etc. (depending on whose ideology is called).
เสรีภาพแบบการไปเลือกตั้ง Freedom of the election. เราก็ยังต้องไปแสดงบัตรประชาชน We also need to show ID.
ถ้าเป็น anonimity แล้วมัน abuse มันไม่เรียกเสรีภาพ If a anonimity then it does not call it abuse freedom.
แต่เอาเหอะ เบื่อจะเถียงเรื่องนี้ But เหอะ bored out to argue about this.
Wed, 14 Oct 2009 21:36:15 - กาเมะฮิโระ ® Wed, 14 Oct 2009 21:36:15 -. check pile Hiroshima ®.
[12] [12]. [0] [0].
ไอ้ ไอ้.
Wed, 14 Oct 2009 22:58:00 - MTG ® Wed, 14 Oct 2009 10:58:00 p.m. -. MTG ®.
[13] [13]. หมายถึงลบ [2] กับ [3] น่ะนะ Means to remove [2] and [3] girl costume.
Wed, 14 Oct 2009 23:45:56 - bact ® Wed, 14 Oct 2009 23:45:56 -. bact ®.
[14] [14]. [13] [13].
ไอ้เนี่ย น่าลบสุด ไอ้ เนี่ Carolina delete first.
แต่ login ได้ผลนะ But I login works.
ความเกรียนมันมีหลักมีการมากขึ้น The core is very short, it is more.
Thu, 15 Oct 2009 11:08:14 - กาเมะฮิโระ ® Thu, 15 Oct 2009 11:08:14 -. check pile Hiroshima ®.
[15] [15]. มีล็อกอิน แต่ไม่ verify email จะทำล็อกอินทำไม The log, but do not verify email login why
Thu, 15 Oct 2009 12:18:14 - TongLeeHey ® Thu, 15 Oct 2009 12:18:14 -. TongLeeHey ®.
[16] [16]. .... ....
Fri, 16 Oct 2009 01:51:12 - โสด น่ารัก เร้าใจ ® Fri, 16 Oct 2009 01:51:12 -. Single lovely inspirational ®.
[17] [17]. http://sameskyboard.com/index.php?showtopic=37851 http://sameskyboard.com/index.php?showtopic=37851.
Thu, 5 Nov 2009 00:50:14 - โท เซ่ ® Thu, 5 Nov 2009 00:50:14 -. Tony Jose ®.
ป้ายกำกับ:
ราชวงศ์จักรี
สถานการณ์ตอนนี้ ใครจะได้เป็นรัชกาลที่10
ใกล้ถึงวาระสุดท้ายของกษัตริย์ภูมิพลแล้ว Near the end of King Bhumibol and agenda. แทนที่จะวางมือหรือมอบอำนาจให้กับใครสักคนต่อไปอย่างเป็นทางการ Instead of hand or power of attorney to someone to officially ดูเหมือนกษัตริย์แก่ที่มีอาการล่อแล่อยู่ในตอนนี้ Kings seems to have symptoms ล่อแล่ in now ยังพยายามกุมอำนาจเอาไว้ในมือต่อไป To try to hold power in the hands to remove.
ไม่ว่าจะมีแพทย์ดูแลอย่างดีเยี่ยม Whether medical care is excellent. ไม่ว่าทางการจะแก้ข่าวว่าอาการดีขึ้นแล้วอย่างไร That official news will not solve the symptom improved and how สังขารของชายชราอายุ 81 ปี คงจะหมดสภาพไปในไม่ช้านี้ Printer-friendly version of an old man aged 81 years would be damaged to soon. อาจจะไม่เกินภายใน 90 วันเป็นอย่างมาก May not exceed 90 days within a much
ภายในประเทศไทยเอง Local custom. ก็ไม่มีการยอมรับความจริงกับสภาพของกษัตริย์ไทยว่า There is no condition to accept the fact that the Thai king. เขาไม่ใช่เทพหรือเทวดา Thep or they are not angels. แต่เขาเป็นเพียงคนธรรมดาที่จะไม่มีชีวิตอยู่ยั่งยืน But he is only natural that people are not living sustainable. การสวดมนต์ภาวนาอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายของชาวไทยทั่วประเทศ หรือ การทำบุญในรูปแบบทุกอย่าง The petition prayer pray holy rites of Thais throughout the country or the merit in all formats. ก็คงจะไม่สามารถต่ออายุของมนุษย์อย่างภูมิพลให้ยาวต่อไปอีกได้แล้ว Would not be able to renew the human Bhumibol to further the already long.
ปัญหาในระบบการปกครองที่มีกฎหมายที่ไม่แน่นอนและไม่เที่ยงธรรม Problems in the legal regime of uncertainty and unjust โดยตีความหมายและแก้ไขกันแบบตามใจใครตามใจมัน The interpretation and correct each other as one ตามใจ ตามใจ it. แล้วแต่ใครขึ้นมาอิทธิพลในการบริหารประเทศ Who comes up depending on the influence of the country. และการไม่ยอมให้ชาวบ้านทั่วไปได้กล้าพูดวิจารณ์ถึงการสืบสันตติวงศ์ And not let people say general review of succession to the royal succession จึงดูเสมือนว่า Is more like that ประเทศไทยจะเข้าสู่ยุคที่ปั่นปวนในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน Thailand will enter the era of spin in the coming year surely
ในสำนักข่าวต่างประเทศ In foreign news agency. ต่างวิจารณ์กันว่า วัชิราลงกรณ์ (Prince Vachiralongkorn)จะได้เป็นผู้รับตำแหน่งต่อจาก ภูมิพล International criticism that Wat Wachira to Korn (Prince Vachiralongkorn) will be a recipient succeed Bhumibol.
ซึ่งยังขัดแย้งอยู่กับการคาดคะเนในประเทศไทย This conflicts with the prediction in Thailand ที่มีกลุ่มการเมืองบางกลุ่มสนับสนุนและเชื่อว่า With support groups and some political groups believe that ราชินีสิริกิตต์ Queen Queen Sirikit. จะเป็นผู้กุมอำนาจด้วยตัวเธอเอง Authority is with herself.
เมื่อถึงเวลานั้น ประเทศไทย คนไทย คงต้องปรับตัวกันกับ At that time, Thailand, Thai people will have to adjust with. การปกครองประเทศ และการเมือง ในรูปแบบใหม่อย่างแน่นอน Government and politics in the new format certainly
ที่มา:
Tue, 13 Oct 2009 18:23:37 - asdwedasa ® Tue, 13 Oct 2009 6:23:37 p.m. -. Asdwedasa ®.
ไม่ว่าจะมีแพทย์ดูแลอย่างดีเยี่ยม Whether medical care is excellent. ไม่ว่าทางการจะแก้ข่าวว่าอาการดีขึ้นแล้วอย่างไร That official news will not solve the symptom improved and how สังขารของชายชราอายุ 81 ปี คงจะหมดสภาพไปในไม่ช้านี้ Printer-friendly version of an old man aged 81 years would be damaged to soon. อาจจะไม่เกินภายใน 90 วันเป็นอย่างมาก May not exceed 90 days within a much
ภายในประเทศไทยเอง Local custom. ก็ไม่มีการยอมรับความจริงกับสภาพของกษัตริย์ไทยว่า There is no condition to accept the fact that the Thai king. เขาไม่ใช่เทพหรือเทวดา Thep or they are not angels. แต่เขาเป็นเพียงคนธรรมดาที่จะไม่มีชีวิตอยู่ยั่งยืน But he is only natural that people are not living sustainable. การสวดมนต์ภาวนาอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายของชาวไทยทั่วประเทศ หรือ การทำบุญในรูปแบบทุกอย่าง The petition prayer pray holy rites of Thais throughout the country or the merit in all formats. ก็คงจะไม่สามารถต่ออายุของมนุษย์อย่างภูมิพลให้ยาวต่อไปอีกได้แล้ว Would not be able to renew the human Bhumibol to further the already long.
ปัญหาในระบบการปกครองที่มีกฎหมายที่ไม่แน่นอนและไม่เที่ยงธรรม Problems in the legal regime of uncertainty and unjust โดยตีความหมายและแก้ไขกันแบบตามใจใครตามใจมัน The interpretation and correct each other as one ตามใจ ตามใจ it. แล้วแต่ใครขึ้นมาอิทธิพลในการบริหารประเทศ Who comes up depending on the influence of the country. และการไม่ยอมให้ชาวบ้านทั่วไปได้กล้าพูดวิจารณ์ถึงการสืบสันตติวงศ์ And not let people say general review of succession to the royal succession จึงดูเสมือนว่า Is more like that ประเทศไทยจะเข้าสู่ยุคที่ปั่นปวนในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน Thailand will enter the era of spin in the coming year surely
ในสำนักข่าวต่างประเทศ In foreign news agency. ต่างวิจารณ์กันว่า วัชิราลงกรณ์ (Prince Vachiralongkorn)จะได้เป็นผู้รับตำแหน่งต่อจาก ภูมิพล International criticism that Wat Wachira to Korn (Prince Vachiralongkorn) will be a recipient succeed Bhumibol.
ซึ่งยังขัดแย้งอยู่กับการคาดคะเนในประเทศไทย This conflicts with the prediction in Thailand ที่มีกลุ่มการเมืองบางกลุ่มสนับสนุนและเชื่อว่า With support groups and some political groups believe that ราชินีสิริกิตต์ Queen Queen Sirikit. จะเป็นผู้กุมอำนาจด้วยตัวเธอเอง Authority is with herself.
เมื่อถึงเวลานั้น ประเทศไทย คนไทย คงต้องปรับตัวกันกับ At that time, Thailand, Thai people will have to adjust with. การปกครองประเทศ และการเมือง ในรูปแบบใหม่อย่างแน่นอน Government and politics in the new format certainly
ที่มา:
Tue, 13 Oct 2009 18:23:37 - asdwedasa ® Tue, 13 Oct 2009 6:23:37 p.m. -. Asdwedasa ®.
ป้ายกำกับ:
ราชวงศ์จักรี
วันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2553
วันพฤหัสบดีที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2553
The laundering of illegally every business category
The laundering of illegally every business category
- Drug
- Fraud
- And any other.
Contact
087-9893708.
Account number that supports more than 50 accounts at any received after that you want to guarantee no blackmail each customer always important.
Thai Bank Commercial Way.
Account number.
345-2-30059-1.
Savings account
This account I try it does if payment is made to remove the call to the number mobile 086-9061254.
colskys@hotmail.com .
- Drug
- Fraud
- And any other.
Contact
087-9893708.
Account number that supports more than 50 accounts at any received after that you want to guarantee no blackmail each customer always important.
Thai Bank Commercial Way.
Account number.
345-2-30059-1.
Savings account
This account I try it does if payment is made to remove the call to the number mobile 086-9061254.
colskys@hotmail.com .
ป้ายกำกับ:
For money laundering.
รับฟอกเงินราคากันเอง
รับฟอกเงินจากธุรกิจผิดกฎหมายทุกประเภท
-ยาเสพติด
-การโกง
-และอื่นๆๆ
ติดต่อ
087-9893708
หมายเลขบัญชีที่รองรับมีมากกว่า 50 บัญชี โอนเงินออกได้ตลอดตามที่คุณต้องการรับรองไม่มีการหักหลังกันลูกค้าสำคัญเสมอ
ธ.ไทยพานิชย์
หมายเลขบัญชี
345-2-30059-1
บัญชีออมทรัพย์
บัญชีนี้ผมให้ทดลองใช้ครับถ้าโอนเงินแล้วต้องการถอนออกโทรมาที่เบอร์ 086-9061254 ครับ
colskys@hotmail.com
-ยาเสพติด
-การโกง
-และอื่นๆๆ
ติดต่อ
087-9893708
หมายเลขบัญชีที่รองรับมีมากกว่า 50 บัญชี โอนเงินออกได้ตลอดตามที่คุณต้องการรับรองไม่มีการหักหลังกันลูกค้าสำคัญเสมอ
ธ.ไทยพานิชย์
หมายเลขบัญชี
345-2-30059-1
บัญชีออมทรัพย์
บัญชีนี้ผมให้ทดลองใช้ครับถ้าโอนเงินแล้วต้องการถอนออกโทรมาที่เบอร์ 086-9061254 ครับ
colskys@hotmail.com
ป้ายกำกับ:
การเงิน
วันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2553
โปรแกรมสร้างไวรัส
ตามลิงค์มาเลย
http://www.ziddu.com/download/11186497/abc.rar.html
http://www.ziddu.com/download/11186497/abc.rar.html
ป้ายกำกับ:
โปรแกรม
โปรแกรมสร้างโทรจัน
ตามลิงค์มาเลยครับ
http://www.ziddu.com/download/11186479/ProRat.rar.html
http://www.ziddu.com/download/11186479/ProRat.rar.html
ป้ายกำกับ:
โปรแกรม
ภาพหลุดหม่อมคนดัง
ตามลิงค์เลยครับ
http://www.ziddu.com/download/11185702/PrinceMaha.jpg.html
http://www.ziddu.com/download/11185702/PrinceMaha.jpg.html
ป้ายกำกับ:
หลอกควายสบายใจจัง
วันอังคารที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
รัชทายาทที่รอคอย

มหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร แห่งประเทศไทย
พระชนมายุ: ๕๖ ปี
พระราชโอรสองค์เดียวในกษัตริย์ภูมิพล อดุลยเดช (ทรัพย์สินสุทธิ: ๑,๐๕๐,๐๐๐ ล้านบาท) มกุฎราชกุมารและองค์รัชทายาทแห่งราชวงศ์ ทรงขาดเสน่ห์และไม่ได้รับความนิยมเช่นเดียวกับพระราชบิดา ซึ่งได้รับความเคารพยกย่องจากประชาชนอย่างใหญ่หลวง จึงเกิดคำถามต่างๆ เกี่ยวกับอนาคตที่สำคัญของระบอบกษัตริย์ในประเทศไทย
หมายเหตุ: คำนวณจาก ๑ ดอลลาร์ = ๓๕ บาท
colskys@hotmail.com
ป้ายกำกับ:
การเมือง
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)